Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Volvo S60 &​ V60 ใหม่ สุดมันส์ ในกิจกรรม Volvo Driving Experience

หลังจากที่ทาง Volvo Cars Thailand ได้เปิดตัวล่าสุดกับรถใหม่นามว่า The All New Volvo S60 ไปเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม ปี 2020 ที่เพิ่งผ่านมานี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ต้องยอมรับเลยว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย กับค่าตัวเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท พร้อมขุมกำลัง Plug-in Hybrid T8 อันทรงพลังและประหยัดน้ำมัน ล่าสุดทาง Volvo Cars Thailand จึงได้จัดกิจกรรม Volvo Driving Experience เพื่อให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้สัมผัสก

สำหรับกิจกรรม Volvo Driving Experience ในปี 2020 นี้ จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Protect What Matters, Drive Your Desire” ถือเป็นครั้งแรกที่ทางวอลโว่ได้จัดกิจกรรมในลักษณะนี้ขึ้น เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจและสื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะรถยนต์วอลโว่ โมเดลใหม่ทุกรุ่น ในสนามแข่งรถ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่

โดยในการทดสอบครั้งนี้ ถูกแบ่งออกเป็นสถานีต่างๆ ที่ให้เราได้สัมผัสการขับขี่จริง ฟิลลิ่งในการควบคุมรถในแต่ละสถานี อัตราเร่งความแรง การตอบสนองของช่วงล่าง การควบคุมพวงมาลัย รวมไปถึงการเบรกกับระบบเบรกแบบ brake by wire ที่จะไม่ได้ใช้หม้อลมเบรกสูญญากาศแบบเดิมแล้ว ซึ่งข้อดีของมันก็คือสามารถตอบสนองได้รวดเร็ว แป้นเบรกมีน้ำหนักคงที่ ลดน้ำหนักไปได้กว่า 10 กิโลกรัม และยังสามารถใช้ดึงพลังงานกลับจากการเบรกเพื่อมาเติมไฟให้แบตเตอรี่ได้ ซึ่งเราจะพบเห็นระบบเบรกแบบนี้ได้ในรถยนต์ไฟฟ้า และทางวอลโว่เองก็ได้นำมาติดตั้งไว้ในรถยนต์วอลโว่ใหม่ ปี 2020 นี้แล้ว ซึ่งรถยนต์ที่ทีมงานได้ขับทดสอบกันในครั้งนี้ด้วยกัน 2 โมเดล กับ Volvo S60 ใหม่ และ Volvo V60 ใหม่ 

พร้อมล้อหมุนจุ่มคันเร่ง!! สถานีแรก Tri-Cone SLALOM ที่มีการจัดเรียงไพลอน 3 ตัวในแต่ละจุด ทำให้ต้องมีการหักเลี้ยวรถมากขึ้น โดยวิ่งเลี้ยวซ้ายและขวาสลับกันต่อเนื่องในทางตรง สำหรับการขับทั้ง Volvo S60 ใหม่ และ Volvo V60 ใหม่ ในสถานีนี้ ในโหมดการขับขี่ไฮบริด มีการใช้ความเร็วระดับ 45-50 กม./ชม. ในการวิ่งสลาลม การหักเลี้ยวไปมานั้นทำได้ง่ายดาย การควบคุมรถสามารถทำได้แม่นยำ และด้านของ Volvo S60 ใหม่ ที่เป็นรถเก๋งซีดาน จะให้ความรู้สึกของรถที่คล่องตัวมากกว่าในการควบคุมและหักเลี้ยวไปมาในสถานีนี้ ส่วนทางด้านของ V60 ใหม่ จะออกแนวนุ่มนวลกว่า รวมไปถึงน้ำหนักพวงมาลัยที่แอบรู้สึกว่าเบากว่าอยู่เล็กน้อย เมื่อเทียบกับตัวเวอร์ชั่นซีดาน แต่หากถามว่าคล่องตัวน้อยกว่าแล้ว การขับขี่เป็นอย่างไร การขับขี่นั้นต้องบอกว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก อาการของรถที่เหวี่ยงไปมานั้นไม่ได้รู้สึกว่าตัวรถโยนไปมามากสักเท่าใดจนทำให้รู้สึกเวียนหัว ทั้งการควบคุมพวงมาลัยเองก็สามารถบังคับทิศทางได้อย่างแม่นยำมากทีเดียว

สถานีจำลองเส้นทางแคบ สถานีนี้จะเป็นการขับขี่ในช่องทางที่ถูกกำหนดไว้เป็นลักษณะของตัว L ต่อเนื่องกัน โดยเริ่มจากการขับตรงเข้าไป เลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา ก่อนจะขับตรงไปเล็กน้อยและเลี้ยวขวาและซ้ายอีกครั้ง ในช่วงนี้เองเราได้ทดสอบทัศนวิสัยของทั้ง Volvo S60 ใหม่ และ Volvo V60 ใหม่ ในการขับขี่ในสถานีนี้นั้นชัดเจนดี การควบคุมรถที่ภายนอกดูมีขนาดที่ใหญ่โต แต่การขับขี่ในเส้นทางจำลองซอยแคบก็ไม่ได้รู้สึกว่าการกะระยะยากแต่อย่างใด แม้แต่การใช้ความเร็วในสถานีนี้ ก็สามารถควบคุมรถผ่านไปได้โดยที่ไม่สะกิดไพลอนเลยแม้แต่น้อย 

สถานี Cornering & Chicane สถานีนี้เป็นการขับขี่ตามไลน์สนามผ่านทางโค้ง รวมไปถึงโค้งขวาสลับซ้ายต่อเนื่อง ในโหมดการขับขี่เดียวกันระหว่าง Volvo S60 ใหม่ และ Volvo V60 ใหม่ นั้น คันไหนให้ความมั่นใจและคล่องตัวมากกว่า ก็ต้องบอกเลยว่าเป็น Volvo S60 ใหม่ ที่สามารถขับผ่านทางโค้งด้วยความเร็วได้อย่างมั่นใจและนุ่มหนึบมากทีเดียว ต่างจาก Volvo V60 ใหม่ ที่อาจจะมีน้ำหนักที่ด้านท้าย และความยาวของรถเข้ามา ทำให้การขับผ่านโค้งด้วยความเร็วต่างจาก S60 อย่างพอรู้สึกได้

สถานี Acceleration ก็เป็นการทดสอบดูอัตราเร่งตั้งแต่หยุดนิ่งก่อนถึงจุดที่จะต้องเบรก ทั้ง Volvo S60 ใหม่ และ Volvo V60 ใหม่ นั้นให้ความรู้สึกหลังติดเบาะแทบจะในทันทีที่จุ่มคันเร่งจมมิด พาตัวรถทะยานไปที่ความเร็วราวๆ 130 กม./ชม. ก่อนถึงจุดที่จะต้องเบรกเพื่อชะลอรถเลี้ยวซ้ายสู่สถานีต่อไป ต้องขอขอบคุณขุมกำลัง Plug-in Hybrid T8 Twin Engine 2.0 ลิตร รหัส B4204T35 ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จ (Turbocharger) และซูเปอร์ชาร์จ (Supercharger) บวกด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งหมดผสานกำลังรวมกันให้แรงม้าสูงสุดถึง 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร ซึ่งการออกตัวแบบคันเร่งติดพื้นแบบนี้ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ก็จะทำงานช่วยกันเพื่อพารถพุ่งทะยานออกไปตามสั่ง โดยขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ที่ล้อหน้าขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้า และล้อหลังนั้นขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว

สถานี Double Lane-Change เป็นสถานีทดสอบการเปลี่ยนเลนกะทันหัน โดยที่เราทราบอยู่แล้วว่าต้องเปลี่ยนเลนไปในทิศทางใดซ้ายหรือขวา ความมั่นใจของทั้ง Volvo S60 ใหม่ และ Volvo V60 ใหม่ นั้น บอกได้เลยว่าเอาอยู่ ด้วยระดับความเร็วราว 50 กม./ชม. สามารถควบคุมรถหักพวงมาลัยกะทันหันและหักคืนกลับมาวิ่งในทางตรงได้แบบไม่ได้รู้สึกว่ารถเสียอาการแม้แต่น้อย บวกกับช่วงล่างที่ลดอาการโยนกะทันหันได้อย่างอยู่หมัดเลยทีเดียว

และสถานี Evasion Block สถานีสุดท้ายกับการต้องหักหลบกะทันหัน เป็นสถานีที่เราจะต้องขับเข้าไปตามไลน์ไพลอน และต้องสังเกตเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณที่จะชี้ธงเขียวไปด้านซ้ายหรือขวา ก่อนหน้าเล็กน้อยที่เราจะต้องหักเลี้ยว ซึ่งหากขับตรงไปก็จะชนกับไพลอนที่วางไว้ โดยความเร็วที่ใช้ในสถานีนี้อยู่ที่ราว 55 กม./ชม. การหักเลี้ยวอย่างกะทันหันและต้องควบคุมรถขับไปตามไลน์ของไพลอน จึงนับเป็นการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินให้เราได้ฝึกการตอบสนองได้อย่างดี รวมไปถึงสมรรถนะของตัวรถที่สามารถตอบสนองการแอคชั่นของเราได้ในทันทีด้วยเช่นกัน และความสามารถในการตอบสนองของระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างที่นุ่มหนึบและมั่นใจแม้จะมีการหักเลี้ยวกะทันหัน พวงมาลัยที่สามารถคุมให้รถวิ่งไปตามเส้นทางที่เราต้องการได้แม่นยำและง่ายดาย หรือแม้แต่การต้องหยุดรถอย่างกะทันหัน ระบบเบรกแบบ brake by wire ก็ช่วยทำให้เราสามารถเหยียบเบรกได้ง่ายกว่าการมีหม้อลมเบรกแบบเดิม ทั้งยังสามารถตอบสนองและทำงานร่วมกับระบบช่วยเบรกได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นระบบไฟฟ้าแล้ว การตรวจเช็คความผิดปกติต่างๆ ก็น่าจะทำได้ง่ายกว่าเพียงการใช้คอมพิวเตอร์เสียบเช็คเท่านั้น

ทั้งหมดนี้ก็คือการขับทดสอบ  Volvo S60 ใหม่ และ Volvo V60 ใหม่ ในสถานีทดสอบต่างๆ ในกิจกรรม Volvo Driving Experience ที่ทาง วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้จัดขึ้น ที่ทำให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงสมรรถนะการขับขี่กับรถยนต์วอลโว่ที่นอกจากขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังให้อารมณ์การขับขี่ที่เร้าใจได้อย่างมาก ทั้งยังมีเทคโนโลยีต่างๆ มากมายติดตั้งเข้ามาให้ในราคาค่าตัวที่ต้องบอกได้เลยว่าไม่แพงเลยทีเดียว แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งบุคลลิกแบบเดิมที่ยังให้ความรู้สึกสบายในการขับขี่ตลอดเส้นทาง ไม่ว่าคุณจะขับสปอร์ตหรือซิ่งขนาดไหน ซึ่งน่าจะตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างหลากหลาย

และหากให้เลือกระหว่าง Volvo S60 ใหม่ หรือ Volvo V60 ใหม่ แล้ว ต้องยอมรับเลยว่าฝั่งของ Volvo S60 ใหม่ ให้การขับขี่ที่คล่องตัวกว่าอย่างรู้สึกได้ แต่ด้วยความอเนกประสงค์และรูปลักษณ์ของ Volvo V60 ใหม่นั้น น่าจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์และโดนใจกว่าในการใช้งานส่วนตัวสำหรับผมเอง ซึ่งการขับขี่รถในชีวิตประจำวันคงจะไม่ได้มาหักเลี้ยวสลาลมไปมา Volvo V60 ใหม่ ก็สามารถมอบความมั่นใจได้ในการควบคุมอย่างดีมากแล้ว...

 

คลิกดูรายละเอียดของรถใหม่ The All New Volvo S60 ที่สุดซาลูนหรูจากสวีเดนแรงสุด 407 แรงม้า ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท ได้ที่นี่ www.autodeft.com/newcar/2020-volvo-s60-new-gen-revealed-official-thailand

The All New Volvo V60 Sporty Premium Estate รุ่นใหม่หมด แรงสุด 407 แรงม้า เริ่ม 2.29 ล้านบาท ได้ที่นี่ www.autodeft.com/newcar/volvo-v60-new-gen-at-motor-expo-2019

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com