Test Ride: ทดลองขี่ All New Honda Forza 300 ตัวใหญ่ ใจดี ขี่ง่าย มีความมัน

ถ้าจะให้นึกถึงรถสไตล์ Big Scooter หรือรถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ถ้าไปถาม 10 คน น่าจะซัก 8 คนที่น่าจะเอ่ยถึงเจ้า Honda Forza 300 มาเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเรามองไปตามท้องถนนแล้วมองหา มันจะเป็นรุ่นที่เราสามารถมองเห็นได้บ่อยตามถนนทั่วไป

แน่นอนว่า หุ่นของเจ้า Honda Forza 300 ในตัวแรกนั้น ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2013 และมีการปรับเล็กน้อยในช่วงปี 2015 ถ้ามองเห็นแล้วจะสัมผัสได้ถึงความใหญ่ ดังนั้นการขับขี่ในช่วงสภาวะรถติด อาจจะไม่สะดวกเท่ากับตัวน้องอย่าง Honda PCX 150 สักเท่าไหร่ แต่ด้วยรูปทรงที่ออกแบบให้ขับขี่ได้อย่างสบาย นักบิดจึงเลือกที่จะเอา Forza มาขับขี่ในรูปแบบการเดินทางไกลเสียมากกว่า

แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี ทาง Honda จึงได้ตัดสินใจที่จะปรับโฉมใหม่หมด ให้กับ Forza เสียใหม่ แล้วออกโฉมใหม่หมดออกมาเมื่อช่วงปีที่แล้ว ให้กลายเป็น  All New Honda Forza 300 ที่มีการปรับเปลี่ยน ทั้งรูปร่างหน้าตาและขนาด ถึงแม้ว่ามองจากภาพลักษณ์ผ่าน ๆ อาจจะรู้สึกว่ารุ่นใหม่นั้น อาจจะมีขนาดที่เล็กกว่า แต่ถ้ามองถึงมิติตามเอกสาร จะเห็นได้เลยว่ามีความแตกต่างไม่ได้มากอะไร โดยขนาดเดิมนั้นเป็นขนาด กว้าง x ยาว x สูง ที่ 753 x 2,166 x 1,189 มม. ส่วน All New Forza 300 นั้นมีขนาด 754 x 2,142 x 1,471 มม. เห็นได้เลยว่า ความยาวนั้นต่างกันเพียง 24 มม. หรือประมาณเกือบ 1 นิ้วเท่านั้น แต่ที่ต่างกันอย่างชัดเจนคือเรื่องของความสูง ที่ต่างกันถึง 282 มม. หรือเกือบ 1 ไม้บรรทัด มันเลยอาจจะทำให้ดูภายนอกแล้วกลายเป็นว่ารุ่นใหม่นั้นสั้นกว่าเยอะ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย

ส่วนตำแหน่งของเบาะนั่งนั้น ก็แตกต่างกันเช่นกัน จากตัวเดิมที่ 716 มม. (จากพื้น) กลายเป็น 780 ม. ในตัวใหม่ ต่างกันถึง 64 มม. ก็ถือว่าเยอะมากทีเดียว และอีกอย่างที่อยากพูดถึงก็คือ การที่ระยะห่างของล้อที่ถูกกระชับให้สั้นลง จาก 1,546 มม ให้กลายเป็น 1,510 มม. ถามว่าทำไมถึงได้ออกแบบให้เพิ่มความสูงแล้วลดความห่างของฐานล้อให้น้อยลง เดี๋ยวเราค่อยมาดูในช่วงตอนขับขี่กัน

เครื่องยนต์ใน All New Honda Forza 300 นั้น เป็นขนาด 279 ซีซี ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบ Honda Selectable Torque Control รองรับการใช้น้ำมันได้สูงสุดที่ E20 ให้พละกำลังสูงสุด 24.8 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 27.2 นิวตันเมตร ไม่ได้แตกต่างกับโฉมก่อนอะไรมาก ขับเคลื่อนส่งกำลังด้วย V-Matic แบบสายพาน (V-Belt) คลัทช์แห้งอัตโนมัติแบบแรงเหวี่ยง

ระบบเบรกนั้น All New Honda Forza 300 ใช้เป็นแบบดิสก์เบรกทั้ง 2 ล้อ พร้อมระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก ระบบกันสะเทือนด้านหน้าใช้แบบ เทเลสโคปิค ส่วนด้านหลังเป็นแบบ ทวินช็อค ยางหน้าเป็น PIRELLI 120/70-15 M/C 56S ด้านหลังเป็น PIRELLI 140/70-14 M/C REINF. 68S น้ำหนักของตัวรถรวม 183 กิโลกรัม เบากว่ารุ่นก่อน 9 กิโลกรัม

อีกส่วนที่แตกต่างกับตัวก่อนอย่างชัดเจน ก็น่าจะเป็นในส่วนของกระจกมองข้าง ที่จากเดิมติดอยู่บนแฮนด์ สามารถขยับหมุนไปมาตามเราหันได้ แต่ตัวใหม่นั้นจะติดแบบตายตัวอยู่กับตัวรถเลย ไม่สามารถหันได้ แต่สามารถพับได้เมื่อยามต้องการใช้งานในเมือง และอีกจุดที่ชอบมากก็คือ ตัวแผงบังลมหรือ Shield ที่สามารถเลื่อนขึ้นลงด้วยระบบไฟฟ้า ที่ควบคุมได้ด้วยปุ่มบนแฮนด์ด้านซ้าย ทำให้เราสามารถเลือกระดับการใช้งานในระหว่างที่เราขับขี่อยู่ได้ตามใจเราต้องการ ส่วนกุญแจเป็นแบบ Keyless อันนี้สะดวกมาก ไม่ต้องควักกุญแจออกมา ก็สามารถหมุนปุ่มแล้วสตาร์ทรถได้เลย ลงจากรถก็หมุนกลับไปตำแหน่งล็อคคอ ก็เดินจากไปได้อย่างสบายใจ

ช่องเก็บของใต้เบาะของ All New Forza 300 นั้น มีขนาดใหญ่พอตัวครับ สามารถใส่หมวกกันน็อคเต็มใบขนาด XXL ที่ผมใส่อยู่ได้ (อาจจะต้องหันให้ถูกทางหน่อย) แล้วยังเหลือพื้นที่ใส่หมวกแบบเปิดหน้าได้อีกใบ หรือจะเลือกยัดใส่สัมภาระเพื่อเดินทางไปกางเต็นท์ตัวคนเดียว ก็น่าจะพอจุของจำเป็นทั้งหมดได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร ส่วนไฟหน้าและไฟเลี้ยวที่ติดอยู่บนกระจกมองข้างนั้น จะมาในรูปแบบของ LED แถมด้วยแถบไฟ Daytime Running Light เพิ่มความชัดเจนในช่วงฟ้าสว่าง และแน่นอนว่าไฟท้าย ก็เป็นแบบ LED เช่นกัน

พอเริ่มก้าวขาคล่อมไปบน All New Honda Forza 300 แล้ว สัมผัสแรกที่พอรู้สึกได้คือ มันสูงกว่าตัวเก่าพอตัว แต่การเอาขาลงมายันกับพื้นนั้นสะดวกมากกว่า เพราะท่านั่งนั้น ไม่ได้ถูกจัดให้ถอยลึกไปเหมือนตัวเก่า ทำให้เรายังคงต้องนั่งค่อนมาทางด้านหน้า ผมเองสูง 170 ซม. ถ้านั่งในตำแหน่งถอยสุด การเอาขาลงไปยันที่พท้นนั้นจะไม่ค่อยถนัด ต้องเอียงตัวรถลงไปถึงจะพอเอาเท้าไปยันพื้นเพื่อรับน้ำหนักตัวรถได้ มันจึงไม่ถนัดที่จะขี่ในตัวเมืองช่วงการจราจรติดขัดสักเท่าไหร่ แต่ถ้าขยับขึ้นมาด้านหน้าอีกนิด คราวนี้สบายเลย สามารถยันเท้าได้ทั้ง 2 ข้างเมื่อต้องมุดไปมุดมาตามช่องต่าง ๆ ตัวรถน้ำหนักเวลาขี่ เบาลงจากตัวเก่าชัดเจน แฮนด์กำลังพอดีไม่หนักหรือไม่เบาเกินไป การซิกแซกในพื้นที่แคบทำได้ดี ไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งนี้เนื่องมาจากตัวรถที่ถูกทำให้สูงขึ้น และลดขนาดของฐานล้อให้แคบลง ทำให้การขับขี่ในเมืองนั้น ทำได้ดีกว่าตัวเดิมอย่างชัดเจน มันคือ Big scooter 300cc ที่เหมาะกับการวิ่งในเมือง แต่ถ้าอยากจะขี่ออกทางไกล ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ท่านั่งอาจจะไม่สบายเท่ากับตัวเก่าเท่านั้นเอง ส่วนการวางขานั้น สำหรับส่วนสูงอย่างผม ผมว่ากำลังพอดีเลย วางได้ไม่งอหรือยืดขามากไป แต่ถ้าเป็นคนขี่ระดับ 180 ซม.ขึ้นไป อาจจะต้องอยู่ในท่าที่งอขามากขึ้น อาจจะเมื่อยมากกว่าเดิม

ส่วนกำลังของเครื่องยนต์นั้น การทำงานส่งกำลังไปที่ล้อ ถือว่าทำได้เหมาะทั้งการใช้งานในเมือง หรือในยามที่ต้องการวิ่งด้วยความเร็วสูง เพราะในช่วงที่เราเดินคันเร่งช่วงในเมือง ที่รถติดขัด รถจะออกตัวไปแบบที่ไม่ได้กระโชกโฮกฮากอะไร แต่เมื่อยามถนนโล่ง ต้องการความเร็ว ก็บิดคันเร่งแบบเต็มที่ ตัวรถก็สามารถพุ่งออกไปได้ ไต่ระดับไปจนถึง Top Speed ที่ประมาณ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง (อาจจะได้อีกนิดหน่อย) ได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ช่วงปลายตัวรถอาจจะดูเบาหน่อย แต่ก็ไม่ได้ขนาดแกว่งจนเอารถไม่อยู่ และในช่วงความเร็วสูงนี่เอง ถ้าเรสดึงเอา Shield ขึ้นมาบังลม จะช่วยลดแรงปะทะกับตัวเราได้ดี การควบคุมรถก็จะทำได้ง่ายกว่าช่วงที่ต้องฝืนตัวเพื่อต้านลมเอง

สิ่งที่ชอบต่อมาก็คือ ไฟหน้าแบบ LED  ที่สว่างเหลือเฟือลุยในถนนมืด ๆ ได้สบาย ส่วนตำแหน่งในการควบคุมต่าง ๆ บนแฮนด์จับทั้ง 2 ข้าง ก็อยู่ในจุดที่สามารถเอื้อมไปใช้งานได้อย่างไม่ลำบากอะไร ส่วนการระบายความร้อนนั้นหายห่วง ทั้งนอกเมือง ในเมือง รถวิ่งได้ รถติด ก็ไม่มีไอร้อนจากเครื่องยนต์มาทำให้ลำบากช่วงขาเลย แต่ติดอยู่นิดก็ตรงช่องเก็บของใต้เบาะ อาจจะมีการสะสมของความร้อนอยู่มากหน่อย ดังนั้นเวลาเลือกของที่จะเก็บ อาจจะต้องดูว่า ไม่ใช่ของที่เสียหายได้จากความร้อน ไม่งั้นอาจจะแย่ได้ถ้าเอาใส่ไว้แล้วต้องเดินทางนาน ๆ ครับ

สรุปแล้วก็คือ All New Honda Forza 300 ถูกออกแบบเพื่อเอามาใช้ในเมืองได้สะดวกกว่าเดิม เพราะจากที่ลองมุดไปมุดมาช่วงจราจรติดขัด มันก็ทำได้ดีขึ้นจริง ๆ ควบคุมได้ง่าย ถึงแม้มันจะไม่ได้คล่องตัวแบบ PCX ก็ตาม แต่ถ้าถามว่า ถ้าขี่ Scooter เล็กอยู่ แล้วอยากหันมาใช้ Forza 300 บ้าง มันจะต้องปรับตัวมากไหม เอาจริง ๆ ความรู้สึกทั่วไปแทบไม่ต่างกับ scooter รุ่นเล็ก เพียงแค่ Forza 300 จะหนักแน่นกว่า กระชับกว่า แรงกว่า ดังนั้นอาจจะใช้เวลาในการปรับตัวเล็กน้อย แต่ก็ไม่น่าจะยากเย็นอะไร แต่ก็ต้องทำใจในเรื่องขนาดของรถ เพราะมันจะมุดรูเล็กเท่าขนาดเล็กไม่ได้อยู่แล้ว แต่เชื่อผมเถอะว่า มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากหรอก เอาเป็นว่าไปได้เกือบทุกช่องเช่นกัน

สำหรับอัตราการใช้น้ำมันนั้น ผมใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ในการทดสอบ หน้าจอแจ้งผลเอาไว้ที่ 31.3 กิโลเมตร/ลิตร ถือว่าโอเคในระดับหนึ่งสำหรับเครื่องยนต์ 279 ซีซี แต่อัตรานี้คือมีทุกอย่าง ทั้งวิ่งรถติดมาก, รถพอวิ่ง, รถทางโล่งอัดเต็มปลอก ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้ว ราคาค่าตัวแนะนำของ All New Honda Forza 300 อยู่ที่ 1.69 แสนบาท ถ้าถามผมว่าน่าซื้อไหม บอกเลยว่าถ้าเป็นคนชอบความสบายในช่วงการขับขี่ มีการเดินทางไกลบ้าง, ไม่ได้ชอบการโลดโผนโจนทะยาน ผมว่าน่าจะเหมาะกับการใช้งานรถจักรยานยนต์คันนี้อย่างมากเลยครับ

ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02