Bentley เผยโฉม Continental GT Supersports ใหม่ เบาที่สุดในรอบ 85 ปี พร้อมลุคดุและการขับขี่สุดดิบแบบไร้ระบบไฮบริด
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 16 พ.ย. 68 11:19
- 1,059 อ่าน
Bentley เปิดตัว Continental GT Supersports รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนอง “ความบริสุทธิ์ในการขับขี่” อย่างแท้จริง โดยตัดระบบไฮบริดออกทั้งหมด เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นครั้งแรกใน Continental รุ่นที่ไม่ใช่รถแข่ง ถือเป็นก้าวสำคัญที่พา GT รุ่นหรูกลับสู่ความดิบแบบดั้งเดิม

โปรเจกต์นี้มีชื่อภายในว่า “Project Mildred” เริ่มจากทีมวิศวกรกลุ่มเล็กที่ตั้งเป้าสร้าง Continental GT น้ำหนักต่ำกว่า 2,000 กก. พร้อมขับหลังเพื่อให้ผู้ขับรู้สึกถึงการตอบสนองที่ตรง อารมณ์จัดจ้าน และควบคุมง่ายบนถนนจริง เดิมทีตั้งใจเป็นรถทดสอบเท่านั้น แต่ผลงานกลับดีมากจนผู้บริหารไฟเขียวให้ผลิตจริงพอดีกับโอกาสครบรอบ 100 ปีของ Bentley Super Sports รุ่นดั้งเดิมในปี 1925
ด้านสมรรถนะ Supersports ใช้เครื่องยนต์ V8 แบบไม่พึ่งไฟฟ้า รีดกำลัง 657 แรงม้า และแรงบิด 800 นิวตันเมตร แม้จะน้อยกว่า Continental GT Speed รุ่นไฮบริดกว่า 100 แรงม้า แต่ Bentley ตั้งใจแลกตัวเลขแรงม้าออกไปเพื่อความรู้สึกการขับที่ตรงถึงผู้ใช้มากกว่า อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. อยู่ที่ 3.7 วินาที และความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. แม้ไม่เร็วที่สุดในตระกูล แต่ตอบโจทย์ “การมีส่วนร่วมของผู้ขับ” อย่างเต็มที่

พลังงานถูกส่งไปยังล้อหลังผ่านเกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีดที่ได้รับการอัปเกรด ผสานดิฟลิมิเต็ดสลิปไฟฟ้า พร้อมระบบ Torque Vectoring และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ช่วยให้การควบคุมเฉียบคมขึ้นอย่างชัดเจน แชสซีและระบบกันสะเทือนถูกจูนใหม่ทั้งหมดเพื่อการตอบสนองที่แม่นยำ
ภายนอกโดดเด่นด้วยงานแอโรใหม่ เช่น กันชนหน้าพร้อมช่องลมและ Dive Planes สเกิร์ตข้าง กันชนหลังแบบระบายอากาศ และสปอยเลอร์ทรง Ducktail พร้อมดิฟฟิวเซอร์ใหม่ ส่วนล้อฟอร์จขนาด 22 นิ้วเป็นผลงานร่วมกับ Manthey Racing ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิกขนาดยักษ์ 440 มม. ด้านหน้า และท่อไอเสียไทเทเนียมจาก Akrapovic เพิ่มเสียงดุดันยิ่งขึ้น ผู้ต้องการสมรรถนะปลายทางสามารถเลือกยาง Trofeo RS แทน P-Zero ได้ด้วย

การทิ้งระบบไฮบริด ระบบขับสี่ เบาะหลัง ฉนวนเสียงบางส่วน การติดตั้งหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ รวมถึงลดระบบช่วยขับบางอย่าง ทำให้น้ำหนักรวมลดลงเหลือต่ำกว่า 2 ตัน ส่งผลให้เป็น Bentley ที่เบาที่สุดตั้งแต่ปี 1940 และเป็น Continental GT ที่เบาที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา
ในห้องโดยสารติดตั้งเบาะสปอร์ตน้ำหนักเบาที่วางตำแหน่งต่ำ ปรับไฟฟ้า 11 ทิศทาง พร้อมกระชับลำตัว ด้านหลังเป็นถาดคาร์บอนไฟเบอร์หุ้มหนังตกแต่งเฉพาะตัว คอนโซลตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์และตรา Supersports รวมถึงแผ่นตัวเลขเฉพาะของแต่ละคัน ลูกค้ายังสามารถปรับแต่งรถได้เต็มรูปแบบผ่านแผนก Mulliner

ดร. แฟรงค์-สเตฟเฟน วัลลิเซอร์ ประธานและซีอีโอของ Bentley ระบุว่า Supersports ใหม่ไม่เพียงเป็น Bentley ที่เน้นผู้ขับมากที่สุดเท่าที่เคยสร้าง แต่ยังเป็นการกลับมาของรถ “สายโหด” ที่ผสมผสานศิลปะการออกแบบกับความเร้าใจอย่างสมบูรณ์
Bentley จะเปิดรับจอง Continental GT Supersports ในเดือนมีนาคม 2026 เริ่มผลิตปลายปีเดียวกัน และส่งมอบช่วงต้นปี 2027 โดยผลิตเพียง 500 คันสำหรับตลาดทั่วโลก รวมถึงสหราชอาณาจักร ยุโรป ตะวันออกกลาง สหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย และประเทศในอ่าวอาหรับ ราคาจะประกาศในภายหลัง
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com




