ศาลสหรัฐฯ ปลดล็อก Mustang Eleanor รถในตำนานจาก "Gone in 60 Seconds" เตรียมคืนชีพอีกครั้งในรุ่นพิเศษเพียง 25 คัน

แฟน ๆ Mustang เตรียมเฮได้เลย เพราะตอนนี้คุณสามารถสเปกรถ Eleanor ในฝันได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมายอีกต่อไป
น้อยครั้งนักที่รถยนต์ในภาพยนตร์จะฝากความประทับใจได้ยาวนานเท่า Ford Mustang Eleanor จากภาพยนตร์ Gone in 60 Seconds ที่นำแสดงโดย Nicolas Cage ด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์และฉากแอ็กชันดุเดือด รถคันนี้กลายเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ และแม้ตลอดหลายปีจะมีคนสร้าง Eleanor ขึ้นมาเลียนแบบจำนวนมาก แต่ครั้งนี้กำลังจะมีรุ่นที่เป็นทางการและสร้างอย่างพิถีพิถันออกมาแล้ว

บริษัทในสหรัฐฯ สองแห่งเตรียมผลิต Eleanor รุ่นพิเศษจำนวนจำกัดเพียง 25 คัน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของภาพยนตร์เวอร์ชันปี 2000 โดยก่อนหน้านี้ผู้ที่พยายามสร้าง Eleanor อาจถูกฟ้องร้องได้ เนื่องจาก Denice Halicki ภรรยาของผู้สร้างภาพยนตร์ต้นฉบับเคยยืนยันว่ารถ Eleanor ถือเป็นทรัพย์สินลิขสิทธิ์ แต่ล่าสุดศาลสหรัฐฯ ได้ตัดสินให้ไม่เข้าข่ายความคุ้มครอง ทำให้การผลิต Eleanor ไม่ติดข้อกฎหมายอีกต่อไป

โปรเจกต์ใหม่ครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของ Ray Claridge ผู้ก่อตั้ง Cinema Vehicle Services ซึ่งเป็นผู้สร้าง Eleanor จำนวน 11 คันในภาพยนตร์ต้นฉบับ ร่วมกับ Randall Wolff จาก Cinema Muscle Recreations โดยทั้งสองให้คำมั่นว่า Eleanor ทั้ง 25 คันจะคงดีไซน์ต้นฉบับอย่างซื่อสัตย์

รถแต่ละคันจะใช้โครงสร้าง Mustang ปี 1967 นำมาบูรณะใหม่และปรับแต่งอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อ Eleanor: Gone Again เปิดราคาประมาณ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้ขุมพลัง 5.0 ลิตร Coyote V8 แบบไร้ระบบอัดอากาศ กำลัง 480 แรงม้า หรือสามารถอัปเกรดเป็นรุ่น 875 แรงม้า ด้วยเครื่อง Aluminator V8 และซูเปอร์ชาร์จ Whipple ขนาด 3.0 ลิตร เพิ่มเงินอีก 19,000 ดอลลาร์ หรือเลือกเครื่อง Roush 427 V8 กำลัง 550 แรงม้า ราคาเพิ่มอีก 18,000 ดอลลาร์

ระบบเกียร์มาตรฐานจะเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด Tremec และมีตัวเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดของ Ford สำหรับรุ่นเครื่อง Coyote V8 ระบบเบรกจาก Wilwood และช่วงล่างแบบคัสตอมจะติดตั้งมาให้

ห้องโดยสารยังคงกลิ่นอายของ Mustang ปี 1967 ไว้ แต่มีการอัปเดตความสะดวกสบายแบบยุคใหม่ เช่น สตาร์ทรถโดยไม่ใช้กุญแจ กระจกไฟฟ้า และการเชื่อมต่อ Bluetooth

ทั้งสองบริษัทยังไม่เปิดเผยช่วงเวลาส่งมอบ แต่คาดว่าจะใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากรถทุกคันจะถูกสร้างด้วยมือทั้งหมด

ที่มา Carscoops