2022 Nissan GT-R Improvement อัพเกรดใหม่เจ้าก็อตซิล่าตัวหล่อ จ่อเผยจริงที่ออสเตรเลีย ตุลาคมนี้

  • โดย : Autodeft
  • 22 ก.ย. 64
  • 4,182 อ่าน

หลังจากที่ นิสสัน ออสเตรเลีย เตรียมอำลาขาซิ่งในตำนานอย่าง Nissan GT-R เนื่องด้วยความปลอดภัยของการทดสอบการชนด้านข้างที่เข้มงวด และเพื่อเป็นการส่งท้ายตำนานก็อตซิล่า เปิดตัว Nissan GT-R รุ่น MY2022 ให้สาวกแดนจิงโจ้ได้เป็นเจ้าของกัน

Nissan GT-R

โดยการปรับปรุงครั้งนี้จะคล้ายกับการเปิดตัวสองรุ่นพิเศษที่ญี่ปุ่นทั้ง Nissan GT-R Premium Edition T-spec และ Nissan GT-R Track Edition Engineered by NISMO T-spec โดยในรุ่น T-spec ติดตั้งเบรกคาร์บอนเซรามิก สปอยเลอร์หลังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ฝาครอบเครื่องยนต์พิเศษ และตราสัญลักษณ์เฉพาะด้านหน้าและด้านหลัง ใช้ล้ออัลลอยสีทอง ขนาด 20 นิ้วพร้อมยางรันแฟลต ขนาด 255/40ZRF20 สำหรับล้อหน้า และ 285/35ZRF20 สำหรับล้อหลัง และระบบกันสะเทือนที่ใช้ประโยชน์จากการลดน้ำหนักใต้สปริง ขอบล้อที่กว้างขึ้นช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของยาง ช่วยให้การบังคับควบคุมเป็นไปอย่างราบรื่นและว่องไวต่อการตอบสนอง ส่วนรุ่น Nismo และ Nismo SV ได้รับการพัฒนาโดยเน้นที่สมรรถนะในการขับขี่ให้เพิ่มมากขึ้น มาพร้อมกับหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์และฝากระโปรงท้ายแบบพิเศษ และล้ออัลลอยลายพิเศษ 20 นิ้วจาก จาก Rays พร้อมยางรันแฟลตเฉพาะรุ่นนี้ เหมือนกับรุ่น Track Edition Engineered by NISMO T-spec ที่จำหน่ายในญี่ปุ่น

Nissan GT-R

Nissan GT-R

ภายในมีออพชั่นคล้ายกันแต่การตกแต่งต่างกันในแต่ละรุ่น ตั้งแต่แผงหน้าปัดและแผงคอนโซลกลาง ใช้วัสดุที่เป็นหนัง Nappa Leather ชั้นดี รูปทรงของแผงหน้าปัดมีการปรับให้เชื่อมต่อกันกับแนวเส้นบนแผงหน้าปัดที่ยาวต่อเนื่องจนถึงแผงคอนโซลกลางให้สัมผัสที่โอบรับแก่ผู้ขับขี่ เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย เรียบง่าย สะดวกต่อการใช้งาน ด้วยชุดระบบนำทางและปุ่มควบคุมเครื่องเสียงให้อยู่ด้วยกัน และลดจำนวนสวิตช์เหลือเพียง 11 ปุ่ม หน้าจอเป็นแบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว มาพร้อมกับไอคอนขนาดใหญ่ หน้าจอ Display Command Console ติดตั้งอยู่ตรงแผงคอนโซลกลางที่ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมลำโพงคุณภาพ BOSE มากถึง 11 ตัว และ Paddle Shift ให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ในจังหวะที่กำลังหมุนพวงมาลัยครึ่งรอบได้อย่างสะดวกโดยในรุ่น T-Spec ตกแต่งด้วยโทนสีเขียวเข้ม บุหลังคาขึ้นรูปด้วยวัสดุหนัง Alcantara และเสา A

Nissan GT-R

มาพร้อมขุมพลังแรงเดียวกันด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V6 3.8 ลิตร 24 วาล์ว รหัส VR38DETT แรงเร้าใจมากสุดที่มีความหลากหลายเริ่มที่ 569 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดมากสุด 633 นิวตันเมตรที่ 3,300-5,800 รอบ/นาที ในรุ่น GT-R Premium ,GT-R Premium Luxury และ GT-R T-Spec และ 599 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดมากสุด 652 นิวตันเมตรที่ 3,600-5,600 รอบ/นาทีในรุ่น Nismo และ Nismo SV เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่นและเร้าใจมากขึ้นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD พร้อมระบบส่งกำลัง เกียร์คลัตช์คู่ GR6 6 สปีด ส่งผลทำให้ตอบสนองต่ออัตราเร่งทั้งในช่วงรอบปานกลาง และรอบสูงได้เป็นอย่างดี ให้ความนุ่มนวลและเงียบมากขึ้น ส่วนเสียงคำรามของเครื่องยนต์ ให้ความดุดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

มั่นใจในการหยุดรถด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ โมโนบล็อก แบบคาลิปเปอร์ 6 สูบ สำหรับด้านหน้า และ 4 สูบสำหรับด้านหลัง จาดิสก์เบรกแบบลอยตคัวสองชิ้นแบบเจาะรู เซาะร่องกลางจานขนาด 410 มม. สำหรับล้อหน้า และ 390 มม. สำหรับล้อหลัง จาก Brembo (ในรุ่น T-Spec) พร้อมออกแบบรองรับความแรงมหาศาลด้วยโช๊คอัพจาก Bilstein DampTronic ปรับได้ 3 หมวดทั้ง Normal, Comfort และ R พร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ควบคุมด้วยอิเลกโทรนิก ผ่อนแรงไฟฟ้าตามความเร็วรถและแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์

Nissan GT-R

Nissan GT-R

Nissan GT-R MY2022 จำหน่ายทั้งรุ่น Premium Premium with luxury interior T-spec, Nismo และ Nismo SV นำเข้ามาจำหน่ายที่ออสเตรเลียโดยขายจริงตุลาคมนี้และมีรุ่นพิเศษ T-spec และ Nismo จำหน่ายเพียง 50 คันเท่านั้น

ที่มา Carscoops

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

5 เรื่องน่าสนใจ