รถไร้คนขับของ Toyota เริ่มทำงานจริงที่สนามบินฮาเนดะ ยกระดับระบบภาคพื้นดินของญี่ปุ่น
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 22 ธ.ค. 68 21:42
- 1,039 อ่าน
Toyota เดินหน้าทดสอบและใช้งานเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติในโลกจริงอีกขั้น ด้วยการนำรถลากจูงไร้คนขับเข้าประจำการที่สนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว ซึ่งถือเป็นสนามบินที่มีความหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยรถรุ่นใหม่นี้มาพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 4 ผสานพลังงานไฟฟ้า เซนเซอร์ระบุตำแหน่ง และระบบควบคุมจากระยะไกล เพื่อรองรับการใช้งานในพื้นที่จำกัดของสนามบินอย่างเต็มรูปแบบ

โครงการดังกล่าวถูกประกาศครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2021 และเริ่มทดสอบการใช้งานจริงในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน โดยพัฒนาโดย Toyota Industries Corporation ร่วมกับสายการบิน All Nippon Airways หรือ ANA ก่อนที่ตัวรถจะได้รับรางวัล iF Design Award ในปี 2022 จากการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทาง
ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2025 เป็นต้นไป รถลากจูงไร้คนขับจำนวน 3 คันจะเริ่มปฏิบัติงานจริง ทำหน้าที่ขนย้ายสัมภาระและสินค้าในเที่ยวบินภายในประเทศ และจะมีการเพิ่มรถอีก 3 คันภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2026 เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น
Toyota ระบุว่านี่คือการนำระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 4 มาใช้งานจริงเป็นครั้งแรกภายในพื้นที่จำกัดของสนามบินในญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2019 สนามบินหลายแห่งเคยทดสอบระบบระดับ 3 มาแล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นก้าวกระโดดทั้งในด้านขอบเขตและศักยภาพของเทคโนโลยี

รถลากจูงรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อพ่วงตู้คอนเทนเนอร์สัมภาระระหว่างเครื่องบินกับอาคารผู้โดยสาร โดยอาศัยระบบระบุตำแหน่งและตรวจจับสิ่งกีดขวางในตัวรถ พร้อมระบบมอนิเตอร์จากระยะไกลที่คอยช่วยจัดการสถานการณ์ซับซ้อนบริเวณรันเวย์และเส้นทางจราจรภายในสนามบิน
ในด้านรูปลักษณ์ ตัวรถยังคงพื้นฐานจากต้นแบบเดิม มีการปรับกันชนหน้าและชายข้างเล็กน้อย โลโก้ Toyota ถูกติดตั้งด้านหน้า พร้อมไฟหน้าทรงเดียวกับรถยนต์ทั่วไป ภายในห้องโดยสารมีที่นั่ง 2 ที่นั่ง แม้การใช้งานจริงจะไม่จำเป็นต้องมีคนขับก็ตาม
รอบคันติดตั้งเซนเซอร์จำนวนมาก รวมถึง LiDAR บริเวณซุ้มล้อ ด้านหน้า และด้านข้าง เพื่อให้ระบบสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัวได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำ

แม้ Toyota ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ แต่ระบุว่าสมรรถนะของรถจะแตกต่างกันตามโหมดการใช้งาน ในโหมดขับขี่อัตโนมัติ รถจะทำความเร็วสูงสุด 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลากน้ำหนักได้สูงสุด 13 ตัน ขณะที่โหมดขับโดยมนุษย์สามารถทำความเร็วได้ถึง 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลากน้ำหนักได้มากถึง 27 ตัน
เส้นทางหลักที่รถเหล่านี้ใช้งานมีระยะทางราว 1.5 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารกับคลังสินค้า โดยตลอดเส้นทางจะผ่านสัญญาณไฟจราจร 2 จุด ซึ่งระบบอัตโนมัติสามารถตรวจจับและตอบสนองได้อย่างสอดคล้องกับแพลตฟอร์มบริหารจัดการใหม่
ควบคู่กับการนำรถเข้าประจำการ Toyota และ ANA ยังเปิดตัวระบบ Fleet Management System หรือ FMS ซึ่งทำหน้าที่สั่งงานรถ กำหนดเส้นทางเข้าออก และเชื่อมต่อกับระบบสัญญาณไฟของสนามบิน เพื่อลดความแออัด เพิ่มความปลอดภัย และทำให้การขนย้ายภาคพื้นดินมีประสิทธิภาพสูงสุด
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com




