รวมสุดยอดยนตรกรรม ROLLS-ROYCE BESPOKE แห่งปี

  • โดย : รัฏฐพิชญ์ มงคลกิตติสุพรรณ
  • 17 ม.ค. 65
  • 3,939 อ่าน

ในปีพ.ศ. 2564 House of Rolls-Royce ได้รังสรรค์ยนตรกรรมบีสโป๊กที่มีความแปลกใหม่และงดงามตามคำสั่งผลิตของลูกค้าให้เป็นรูปธรรม ส่งผลให้การผลิตแบบสั่งทำพิเศษมีความก้าวหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ Rolls-Royce ได้คิดค้น พัฒนา และนำเสนอการตีความของความหรูหราที่แท้จริงในรูปแบบใหม่และท้าทาย ส่งผลให้เกิดผลงานหัตถศิลป์ร่วมสมัยที่ดีที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ

  • จำนวนการสั่งผลิตยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์บีสโป๊กเติบโตสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปีพ.ศ. 2564
  • ยนตรกรรมสั่งผลิตพิเศษของลูกค้าที่งดงามและเปี่ยมด้วยอารมณ์และความรู้สึกสะท้อนถึงความสำเร็จของแบรนด์ในฐานะ House of Luxury อย่างแท้จริง
  • งานหัตถศิลป์ที่ก้าวล้ำพา Rolls-Royce ไปไกลกว่าขอบเขตของการผลิตยานยนต์ทั่วไป

เป็นปีแห่งปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่คาดคิด เมื่อ House of Rolls-Royce ได้สร้างสถิติยอดขายประจำปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 117 ปีของประวัติศาสตร์แบรนด์ เราได้ทำงานใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อขยายขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์ภายในทีมงาน Bespoke Collective ของเรา ส่งผลให้เกิดการรังสรรค์ผลงานบีสโป๊กที่โดดเด่นอย่างแท้จริง   

Rolls-Royce ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความเข้าใจในธรรมชาติของงานหัตถศิลป์ โดยเน้นการใช้เทคนิคที่ล้ำสมัย และดึงความสามารถเฉพาะของทีมงานผู้เปี่ยมด้วยทักษะและพรสวรรค์อย่างมากของเราออกมา ช่างฝีมือยังคงขยายขอบเขตของความเป็นไปได้ในการสั่งผลิตพิเศษ ด้วยการใช้วัสดุล้ำค่าและหายากผนวกกับความเฉลียวฉลาดช่างคิดในการสร้างสรรค์ผลงานระดับโลกที่มีความเป็นเลิศในสาขาของตน ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอผลงานยนตรกรรมสั่งผลิตพิเศษที่โดดเด่นเหล่านี้ ซึ่งได้ส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลกในปีพ.. 2564”

Torsten Müller-Ötvös, Chief Executive, Rolls-Royce Motor Cars

ในปีพ.ศ. 2564 House of Rolls-Royce ได้รังสรรค์ยนตรกรรมบีสโป๊กที่มีความแปลกใหม่และงดงามตามคำสั่งผลิตของลูกค้าให้เป็นรูปธรรม ส่งผลให้การผลิตแบบสั่งทำพิเศษมีความก้าวหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้  Rolls-Royce ได้คิดค้น พัฒนา และนำเสนอการตีความของความหรูหราที่แท้จริงในรูปแบบใหม่และท้าทาย ส่งผลให้เกิดผลงานหัตถศิลป์ร่วมสมัยที่ดีที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ

Rolls-Royce Bespoke Collective คือทีมวิศวกร นักออกแบบ และช่างฝีมือชั้นยอดที่ทำงานที่ Home of Rolls-Royce ในกู้ดวูด ประเทศอังกฤษ ผู้นำแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์และบุคคลในประวัติศาสตร์ งานศิลปะเลื่องชื่อ คอลเล็กชั่นวัตถุโบราณส่วนบุคคล ธรรมชาติ และโลกแห่งสถาปัตยกรรมมารังสรรค์ยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริงที่แสดงออกถึงสไตล์และบุคลิกเฉพาะตัวของเจ้าของรถ

ภายในปีที่ผ่านมาได้เห็นการประกาศครั้งสำคัญของแบรนด์ ตั้งแต่การคาดการณ์ของ Spectre รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกที่จะออกสู่ตลาดในปีพ.ศ. 2566 และการเปิดตัวของอีกหนึ่งตัวตนของ Ghost นั่นคือ Black Badge Ghost แสดงให้เห็นว่า Rolls-Royce ยังคงกำหนดอนาคตของโลกแห่งความหรูหรา

ต่อไปนี้คือสุดยอดผลงานหัตถศิลป์ การออกแบบ และงานวิศวกรรมที่สั่งผลิตพิเศษซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นโดยแบรนด์ในช่วงปีพ.ศ. 2564

BOAT TAIL

การรังสรรค์ Boat Tail ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกอนาคตที่สำคัญสำหรับการรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษสมัยใหม่ โดย Rolls-Royce ยืนยันว่าการรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษ (Coachbuild) จะเป็นบริการถาวรของบริษัทฯ ในอนาคต  Boat Tail เป็นงานหัตถศิลป์ชิ้นเอกที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งตัวถังรถและภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นจากการปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อให้ทุกอย่างถูกต้องเป็นไปตามที่ลูกค้ากำหนดทุกประการ   การสร้างสรรค์ดังกล่าวบอกเล่าเรื่องราวอันแสนโรแมนติกในประวัติศาสตร์ของโรลส์-รอยซ์ที่สะท้อนการออกแบบรูปร่างของท้ายเรือแต่ไม่ได้ลอกเลียนอย่างชัดเจน โดยหลอมรวมรูปร่างตัวถังในอดีตเข้ากับการออกแบบร่วมสมัยที่ละเอียดลออ

รูปทรงของ Boat Tail ถูกรังสรรค์ขึ้นจากแบบจำลองขนาดจริงทำจากดินเหนียวปั้นขึ้นรูปด้วยมือและนำมาทำสำเนาใหม่ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อสร้างตัวถังรถขึ้นจากแผ่นอลูมิเนียมที่ใช้ค้อนตีด้วยมือ การรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษของ Rolls-Royce ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ในขณะที่ยังคงอนุรักษ์การรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษแบบดั้งเดิมไว้ด้วยความระมัดระวัง  ความชัดเจนของพื้นผิวและการต่อลายถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยการปรับแต่งด้วยมืออย่างต่อเนื่องซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ด้วยเครื่องจักรเพียงอย่างเดียว

Rolls-Royce Coachbuild นำพาอุตสาหกรรมสินค้าหรูในวงกว้างขึ้นไปสู่อีกด้านที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ที่ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ในการรังสรรค์ผลงานที่มีความเฉพาะบุคคลสูงได้อย่างไร้ขีดจำกัด  ความร่วมมือด้านงานศิลปะกับ BOVET 1822 เพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาแบบพลิกกลับด้านได้ 2 เรือนสำหรับยนตรกรรม Boat Tail ทำให้เห็นถึงผลงานที่มีเอกลักษณ์จากสองแบรนด์หรูชั้นนำที่ไม่เหมือนกับที่เคยสร้างสรรค์มาก่อน

KRYPTOS WRAITH

ปี พ.ศ. 2564 ได้ทำการส่งมอบยนตรกรรมใน Wraith Kryptos Collection ล็อตสุดท้ายให้กับเจ้าของยนตรกรรมทั่วโลก โดยเมื่อครั้งที่มีการเผยโฉมคอลเล็กชั่นยนตรกรรมลึกลับนี้ซึ่งได้นำไปสู่การจุดประกายการเดินทางสู่การไขรหัสลับที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2563  ยนตรกรรมในคอลเล็กชั่นนี้เต็มไปด้วยข้อความรหัสซ่อนตัวอย่างกลมกลืนในรายละเอียดของยนตรกรรม สำหรับสายตาที่ไม่คุ้นชินกับการออกแบบที่แปลกตาเป็นเอกลักษณ์มันคือสุนทรียศาสตร์ ซึ่งเป็นผลรวมขององค์ประกอบที่รวมกันเพื่อสร้างสรรค์รูปลักษณ์ภายนอกที่ปราดเปรียว อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าของโรลส์-รอยซ์ผู้ที่มีความอยากรู้อยากเห็น ยนตรกรรมนี้มีรหัสลับที่ต้องหาคำตอบและผู้ชนะที่สามารถไขปริศนาสำเร็จจะได้รับรางวัลที่มีเพียงรางวัลเดียวเท่านั้น

ความพยายามที่จะไขปริศนาได้เริ่มต้นขึ้นแล้วจากทั่วโลกด้วยทฤษฎีที่ละเอียดซับซ้อนและบทสรุปการวิเคราะห์ต่าง ๆ มากมายถูกส่งไปยัง Home of Rolls-Royce ในกู้ดวูดเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะ จวบจนปัจจุบัน ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้ที่ชื่นชอบการเข้ารหัสและลูกค้าได้ร่วมกันไขรหัสบางส่วนได้สำเร็จแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การไขปริศนาขั้นสุดท้ายยังคงไม่สำเร็จ ฉะนั้น การแข่งขันเพื่อถอดรหัส Wraith Kryptos ยังคงต้องดำเนินต่อไป

PHANTOM ORIBE

การทำงานร่วมกันที่ไม่เหมือนที่ใดระหว่าง House of Rolls-Royce และ House of Hermès ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ยนตรกรรมบีสโป๊ก Phantom ให้แก่นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น Yusaku Maezawa ยนตรกรรมภายใต้ชื่อ Phantom Oribe โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายนอกด้วยสีทูโทนสั่งทำพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Oribe ware เครื่องถ้วยชามเซรามิกญี่ปุ่นโบราณที่เป็นคอลเล็กชั่นระดับโลกของลูกค้า เพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นเมื่อ Rolls-Royce ได้ผลิตสีพิเศษให้กับลูกค้าเพื่อใช้สำหรับเครื่องบินส่วนตัวเพื่อให้เข้ากับสีของยนตรกรรมPhantom ของเขาอีกด้วย

ภายในยนตรกรรมตกแต่งด้วยหนังของ Hermès สี Enea Green เป็นหลัก และยังถูกใช้ในส่วนรายละเอียดที่ลูกค้าสัมผัสได้ทันทีเมื่อเข้าไปในห้องโดยสาร  เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความร่วมมือของระหว่าง 2 แบรนด์หรูในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมครั้งนี้ ฝาปิดช่องเก็บของด้านหน้าปักข้อความลายนูนว่า Habillé par Hermès Paris (ตกแต่งโดย Hermès ปารีส)

ในส่วนของแกลเลอรี่ใน Phantom Oribe ได้คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ด้วยแกลเลอรี่ที่พาดผ่านตามแนวยาวบริเวณแผงหน้าปัดด้านหน้ารถ นำเสนองานศิลปะที่อ้างอิงจากการออกแบบโดยศิลปินและนักวาดภาพประกอบผู้โด่งดังชาวฝรั่งเศส Pierre Péron (ปีพ.ศ. 2448-2531) ผู้สร้างสรรค์ผลงานลวดลายผ้าพันคออันเป็นเอกลักษณ์ของ Hermès มาแล้วมากมาย โดยผลงานในแกลเลอรี่ได้รับแรงบันดาลใจจากลายม้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ถูกบรรจงวาดด้วยมือลงบนแผงไม้รอยัล วอลนัทที่เผยให้เห็นลายไม้ธรรมชาติ และถูกนำเสนอภายใต้บานกระจกให้ความรู้สึกเหมือนกำลังชมรูปภาพที่จัดแสดงอยู่ภายในแกลเลอรี่

PHANTOM TEMPUS COLLECTION

Phantom Tempus Collection ทำให้ Rolls-Royce Phantom กลายเป็นเรื่องของการสั่งผลิตที่สุดพิเศษและหายากด้วยจำนวนจำกัดเพียง 20 คันเท่านั้น การตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของยนตรกรรม Phantom นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ ‘เวลา’ หมุนผ่านไปและสามารถทำให้ประหนึ่งหยุดนิ่งได้

งานออกแบบได้รวมไว้ซึ่งสุนทรียศาสตร์ และความชาญฉลาดภายใต้แนวคิดที่หลากหลายและเกี่ยวพันกับเวลา และจักรวาล  องค์ประกอบสำคัญที่แสดงไว้บนเพดานห้องโดยสารอย่างวิจิตรบรรจง คือ ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก นั่นคือ พัลซาร์ (Pulsar) ที่ไม่มีใครเคยรู้จักจนกระทั่งปีพ.ศ. 2510 และสามารถพบปรากฏการณ์นี้ได้ ณ จุดที่ลึกที่สุดของอวกาศ (พัลซาร์ที่ถูกค้นพบที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุดในระยะทาง 280 ปีแสง หรือ1,680 ล้านล้านไมล์จากโลก) พัลซาร์เป็นดาวนิวตรอนที่ความหนาแน่นสูง หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูงและปลดปล่อยคลื่นวิทยุออกมาเป็นจังหวะที่เสถียรทำให้พวกมันถูกอ้างอิงว่าเป็นนาฬิกาจักรวาลที่แม่นยำที่สุดอย่างหนึ่ง

สีตัวถังของ Phantom Tempus Collection นี้มาในสีสั่งทำพิเศษใหม่ Kairos Blue ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสื่อถึงความมืดและความลี้ลับของห้วงอวกาศ สีพิเศษนี้มีส่วนผสมของผงไมก้าสีฟ้า ส่องประกายวิบวับแวววาวเมื่อยามต้องแสงเป็นตัวแทนของหมู่ดาว ตัดกับรายละเอียดตกแต่งสีดำภายนอกเพิ่มความโดดเด่น   

PHANTOM KOA

Phantom Koa คือ Rolls-Royce Phantom คันแรกที่ใช้ไม้โคอะ (Koa) ซึ่งเป็นไม้พันธุ์หายากที่เจริญเติบโตบนเกาะฮาวายเท่านั้น  แรงบันดาลใจนี้มาจากการที่ผู้ที่ชื่นชอบหลงใหลในรถยนต์อย่าง Jack Boyd Smith, Jnr. และ Laura ภรรยาของเขาได้ใช้เวลาส่วนใหญ่บนเกาะเมาวีในหมู่เกาะฮาวาย และมีความชื่นชอบในลักษณะลวดลายและความรู้สึกที่ดูอบอุ่นของไม้ชนิดนี้

ต้นโคอะไม้หายากนี้เจริญเติบโตที่ฮาวายเท่านั้น และยังเป็นพันธุ์ไม้สงวนของอุทยานแห่งชาติและของรัฐฮาวาย อีกด้วย อีกทั้ง ไม้โคอะที่ใช้ได้ต้องมาจากพื้นที่การเกษตรของเอกชนเท่านั้น ทำให้การที่จะหาท่อนไม้ที่เหมาะสมได้นั้นจึงเป็นความลำบากยากยิ่งอย่างแท้จริง  ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุไม้ของโรลส์-รอยซ์ กล่าวถึง การค้นหาครั้งนี้ว่า เป็น ‘โอกาสหนึ่งในล้าน’

ภายหลังจากสามปีแห่งความร่วมมือกับทีมงาน Rolls-Royce Bespoke Collective  ยนตรกรรมบีสโป๊กของ Mr. Smith คันนี้ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอลเล็กชั่นยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะกว่า 60 คันของเขา ณ พิพิธภัณฑ์ เจบีเอส คอลเล็กชั่น (JBS Collection Museum)

LANDSPEED COLLECTION

Rolls-Royce Landspeed Collection มีจำนวนจำกัดเพียง 25 คันสำหรับ Dawn และ 35 คันสำหรับ Wraith โดยคอลเล็กชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตอันน่าทึ่งของ George Eyston และความสำเร็จในการทำลายสถิติของเขา  อีกทั้ง ยังมีความงดงามที่เกี่ยวพันกับภูมิทัศน์ของที่ราบลานเกลือบอนเนวิลล์ (Bonneville Salt Flats) ที่ลึกลับไม่เหมือนที่ใดที่ซึ่งรถ Thunderbolt ทำให้เขาได้เป็นเจ้าแห่งความเร็วที่สุดในโลกแม้ว่าจะเป็นเพียงในระยะเวลาอันสั้นก็ตาม

ตลอดช่วงชีวิตของเขา George Eyston ได้รับการเชิดชูเกียรติสำคัญ 3 ครั้ง เขาได้รับเหรียญกล้าหาญ (Military Cross) เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ (Chevalier of the Légion d’honneur) และเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ (OBE)  เกียรติยศเหล่านี้ได้ถูกบันทึกไว้ในยนตรกรรม Wraith Landspeed และ Dawn Landspeed ในลักษณะรายละเอียดย่อยตกแต่งที่ประตูด้านคนขับโดยการใช้ริบบิ้น ผ้าไหมกรอสเกรนชนิดและสีเดียวกับริบบิ้นของเหรียญเกียรติยศเดิม

เพดานห้องโดยสาร Starlight Headliner ภายในยนตรกรรม Wraith Landspeed ได้จำลองบรรยากาศสวรรค์ขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบดังที่ปรากฏบนที่ราบลานเกลือในวันที่ 16 กันยายน ปีค.ศ. 1938 คือวันที่ Eyston และ Thunderbolt สร้างสถิติความเร็วสูงสุดของโลกเป็นครั้งที่ 3 และครั้งสุดท้าย กลุ่มดาวบนเพดานแต่ละดวงถูกสร้างสรรค์เรียงรายขึ้นด้วย ‘ดาว’ หลอดไฟเบอร์ออปติคจำนวน 2,117 ดวง นับว่าเป็นจำนวนดาวบนเพดาน Starlight Headliner ใน Rolls-Royce Wraith มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

CULLINAN ‘BLACK AND BRIGHT’

Rolls-Royce Motor Cars Moscow นำเสนอ Cullinan 'Black and Bright' ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศของกรุงมอสโกในยามค่ำคืน ภายหลังจากความสำเร็จของ Wraith 'Black and Bright' เมื่อสองปีที่แล้ว การตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งในปีพ.ศ. 2564 คือการออกแบบด้วยจิตวิญญาณเดียวกันแต่เปี่ยมด้วยความมั่นใจที่มากขึ้นกว่าเดิม

ยนตรกรรมจำนวนจำกัดนี้มีจำหน่ายเฉพาะที่ผู้แทนจำหน่ายในกรุงมอสโกเท่านั้น ด้วยการนำเสนอยนตรกรรม Black Badge Cullinan ในห้าสีโดดเด่นสะดุดตา ได้แก่ สีแดง Magma Red สีส้ม Orange Metallic สีม่วง Twilight Purple สีเหลือง Forge Yellow และสีฟ้า Turchese  แผงคาร์บอนไฟเบอร์ของ Black Badge Cullinanได้รับการออกแบบเฉพาะให้แถบลายเส้นตัดมีสีเดียวกับภายนอกรถ ในขณะที่เพดานห้องโดยสาร Starlight Headliner ในตำนานสะท้อนถึงสีสันภายนอกและภายในยนตรกรรม

ในฐานะที่เป็นซีรีส์ยนตรกรรมบีสโป๊กแบบถาวรสำหรับผู้ที่ปฏิเสธที่จะถูกจำกัดอยู่ในกรอบของความหรูหราแบบดั้งเดิม Black Badge จึงทำหน้าที่เสมือนเป็นผืนผ้าใบในการรังสรรค์ผลงานยนตรกรรมบีสโป๊กเฉพาะบุคคลเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

KENGO KUMA DAWN

Rolls-Royce และ Kengo Kuma ผสมผสานโลกแห่งยนตรกรรมหรูและสถาปัตยกรรมเข้าไว้ด้วยการเผยโฉม ยนตรกรรมบีสโป๊ก Rolls-Royce Dawn ที่มีเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียว  ยนตรกรรมหนึ่งเดียวคันนี้เผยโฉมครั้งแรกในฐานะตัวแทนประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่สำหรับโครงการที่พักอาศัยหรูแห่งใหม่ ‘The Kita’ ในใจกลางกรุงโตเกียวที่ออกแบบโดย Kengo Kuma และได้รับคำสั่งผลิตพิเศษจาก Westbank บริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หรูระดับโลก

Rolls-Royce Dawn ถูกรังสรรค์ขึ้นเฉพาะสำหรับเจ้าของเพนท์เฮ้าส์ที่พักอาศัยในโครงการนี้ใช้เท่านั้น  โดย The Kita Tea House เป็นเพนท์เฮ้าส์ที่มีหลายชั้นตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่ล่าสุดที่เพิ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบในใจกลางย่านคิตะซันโดะ

ภายนอกของ Dawn มาในสี Silver Haze เฉดสีหลายมิติสะท้อนถึงสีเทาเงินของวัสดุหลักที่ใช้สำหรับตัวอาคาร และเมื่อยามถูกแสงแดดกระทบ จะเผยสีบรอนซ์เหลือบให้ความรู้สึกอบอุ่นสะท้อนถึงสีบรอนซ์ของม่านบังตาแบบโคชิ (Koshi) ภายนอกตัวอาคารและรายละเอียดตกแต่งภายในอาคาร  เสริมความโดดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้าสีเงินตัดกับเส้นโคชไลน์คู่สีดำ ผสานภายในและภายนอกด้วยความรู้สึกอบอุ่นมอบสัมผัสที่ใกล้ชิดด้วยแผงไม้รอยัล วอลนัทที่เผยให้เห็นลายไม้ธรรมชาติที่บริเวณส่วนท้ายที่เก็บหลังคาเข้ากับแผงไม้วอลนัทที่ตกแต่งบริเวณล้อบบี้ทางเข้าอาคารเพนท์เฮ้าส์     

SLOSS’ CULLINAN

Ben และ Christine Sloss สองสามีภรรยาผู้ชื่นชอบหลงใหลในรถยนต์และเป็นนักแข่งรถประเภท Endurance Race สั่งผลิตพิเศษ Rolls-Royce Black Badge Cullinan กับทาง Rolls-Royce Motor Cars Los Gatos

สีตัวถังของยนตรกรรมคันนี้มาในสีสั่งทำพิเศษ Pikes Peak Blue โดยชื่อของเฉดสีนี้เป็นการให้เกียรติแก่ ยอดเขาสถานที่จัดการแข่งขันปีนเขาที่มีชื่อเสียงของรัฐโคโลราโด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการแข่งขันที่ลูกค้า ชื่นชอบ แต่งแต้มตัวถังด้านข้างด้วยเส้นโค้ชไลน์คู่สีเหลืองสด Forge Yellow  ที่บรรจงวาดด้วยมือเข้ากับสีดุมล้อ และคาลิปเปอร์เบรก ซึ่งทั้ง 2 สีที่ใช้ใน Black Badge Cullinan เป็นสีของธงประจำเมืองโมเดนา และเป็นสีประจำตัวของสองสามีภรรยาคู่นี้ที่ใช้ในการแข่งรถ      

GHOST EXTENDED URBAN SANCTUARY

หลังจากการเปิดตัวสู่ตลาดของ Ghost Extended ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ยนตรกรรมรุ่นนี้ได้เริ่มเดินทางไปบนเส้นทางของการบริการสั่งผลิตพิเศษ (บีสโป๊ก) สืบเนื่องจากการคิดค้นปรัชญาการออกแบบ Post Opulent ซึ่งเป็นการเน้นการใช้วัสดุที่มีความคงทนแข็งแรงและเรียบง่าย ยนตรกรรม Urban Sanctuary จึงเป็นการเผยโฉมการยกระดับงานไม้ปาร์เกต์เป็นครั้งแรก งานไม้โมเสคทรงเรขาคณิตนี้ที่ตกแต่งขั้นตอนสุดท้ายด้วยแผงไม้ Obsidian Ayous ที่ไม่ได้ทาแลคเกอร์เพื่อเผยให้เห็นถึงลายไม้ธรรมชาตินั้นชวนให้นึกถึง 'ลายน้ำแข็งแตก' (Cracked Ice) บนบานหน้าต่างไม้ของศาลาภายในสวนอวี้หยวน (Yu Yuan Gardens) ในเซี่ยงไฮ้ แนวคิดการออกแบบ 'ลายน้ำแข็งแตก’ ยังคงใช้ต่อเนื่องในส่วนของงานปักบีสโป๊กที่บริเวณเบาะที่นั่ง

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทนสีน้ำเงินกรมท่าและสีเทา Cashmere Grey สร้างประสบการณ์การใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ว่าจะขับเองหรือมีคนขับ  ประสบการณ์การใช้งานแบบมีคนขับได้รับการเน้นย้ำเพิ่มเติมด้วยเบาะที่นั่ง Serenity Seating ที่ปรับเอนได้พร้อมที่พักขา เลียนแบบรูปแบบของเบาะที่นั่งบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เบาะที่นั่งสุดหรูนี้ถูกแต่งเติมความโดดเด่นด้วยตะเข็บสีเขียว Lime Green

สีตัวถังภายนอกของ Urban Sanctuary มาในแบบทูโทนด้วยสี Gunmetal และสี Jubilee Silver ที่ให้ความเรียบหรูตัดกับเส้นโคชไลน์คู่และเส้นสีติดขอบล้อสีเขียว Lime Green บ่งบอกถึงแสงสียามราตรีในเมืองเซียงไฮ้

DREAM GHOST

Ghost Extended ได้กลายเป็นผืนผ้าใบในการรังสรรค์แดชบอร์ดเรืองแสงสั่งทำพิเศษเฉพาะบุคคลชิ้นแรกที่เป็นส่วนหนึ่งของการสั่งผลิตพิเศษโดย David Bartosiak นักสะสมสินค้าหรูในเซาท์ฟลอริดา  เขาร้องขอเป็นการส่วนตัวกับทีมงาน Rolls-Royce Bespoke Collective ให้ปรับเปลี่ยนคำที่แสดงบนบริเวณแผงหน้าปัดเรืองแสงให้เป็นคำว่า 'DREAM' แทนคำว่า 'GHOST'  เขากล่าวว่า ความปรารถนานี้พูดถึงความฝันที่ฉันมีในวัยเด็ก เกิดภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สวยงามในปีค.. 1983  ที่เมืองเวโรบีช รัฐฟลอริดา ความฝันที่ฉันปลูกฝังให้คนรอบข้างทุกวัน และความฝันที่ฉันหวังว่าจิตวิญญาณของฉันจะคงอยู่บนโลกเมื่อฉันได้จากไปแล้ว

การส่องสว่างเกิดขึ้นได้โดยการใช้หลอดไฟ LED จำนวน 152 ดวงติดตั้งด้านบนและด้านล่างของบริเวณแผงหน้ารถ  เพื่อให้มั่นใจว่าหลอดไฟที่แสดงลายกราฟิกจะติดสว่างสม่ำเสมอ จึงมีการติดตั้งท่อนำแสงหนา 2 มิลลิเมตรพร้อมการเจาะรูขนาดเล็กด้วยเลเซอร์มากกว่า 90,000 จุดทั่วพื้นผิวของบริเวณแผงหน้ารถ ซึ่งไม่เพียงแต่กระจายแสงได้อย่างสม่ำเสมอแต่ยังสร้างความวิบวับเมื่อสายตาเลื่อนพาดผ่านบริเวณส่วนแผงหน้ารถ สะท้อนประกายระยิบระยับอันละเอียดอ่อนของเพดานห้องโดยสารแบบ Starlight Headliner

เพดานห้องโดยสาร Starlight Headliner ที่ Mr. Bartosiak ได้สั่งให้รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษนั้น นำเสนอผลงานที่มีความเฉพาะบุคคลอีกชิ้นที่สร้างสรรค์ด้วยมือ การจัดวางตำแหน่งทางดาราศาสตร์ของดวงดาวเหนือเมืองเวโรบีช รัฐฟลอริดาที่ปรากฏในวันเกิดของเขาในปีค.ศ. 1983 ถูกบรรยายให้เห็นภาพด้วยหลอดไฟเบอร์ออปติคจำนวน 1,236 ดวง

BESPOKE WRAITH

ลูกค้าที่อยู่ในเซี่ยงไฮ้ได้สั่งผลิตยนตรกรรมบีสโป๊ก Wraith ที่ไม่เหมือนใครในสี Pebble Paradiso Blue สีที่เป็นตัวแทน 'ชายทะเลเซี่ยงไฮ้ที่เป็นดั่งสวรรค์' สำหรับเธอ  เส้นโค้ชไลน์คู่ที่บรรจงวาดด้วยมือในเฉดสี Seashellโดดเด่นด้วยลวดลายกล้วยไม้อันละเอียดอ่อนที่สะท้อนถึงความหลงใหลในความสง่างามของเธอ

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยงานศิลปะภาพรอยเท้าของเด็กผู้หญิงบนฝาครอบจอมอนิเตอร์สีขาว Piano White ซึ่งเป็นการขอบคุณสำหรับความสุขที่ลูกค้าเฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนาน อีกทั้ง ตกแต่งภายในด้วยหนังที่คงลักษณะความงามตามธรรมชาติสองเฉดสี คือสี HK-Charles Blue และสี Seashell ส่วนเพดานห้องโดยสาร Starlight Headliner ที่สั่งผลิตพิเศษยังคงบ่งบอกถึงการเฉลิมฉลองของกลุ่มดาวที่มีความหมายต่อลูกค้าที่แสดงถึงความชื่นชมที่มีต่อลูกสาวของเธอ

เฉดสีที่สะท้อนถึงชายทะเลเหล่านี้ พร้อมกับความรักนิรันดร์ที่มีต่อลูกสาว และความสง่างามและงดงามของกล้วยไม้บ่งบอกถึงวิถีชีวิตโดยรวมของลูกค้า ยนตรกรรม Wraith จึงเป็นสถานที่โปรดของเธอยามที่ต้องการผ่อนคลาย

CULLINAN 50th

Cullinan ที่งดงามหนึ่งเดียวที่ไม่เหมือนใครถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในปีพ.ศ. 2564

ตัวถังภายนอกตกแต่งขั้นตอนสุดท้ายด้วยการพ่นเคลือบคริสตัลบนสีขาว Arctic White เพิ่มความโดดเด่นด้วยเส้นโค้ชไลน์คู่ที่บรรจงวาดด้วยมือโดยเส้นบนเป็นสีแดง Hotspur Red ส่วนเส้นล่างเป็นสีเขียว Fame Green เสริมความสมบูรณ์แบบด้วยลวดลาย Gold Bullion Coachline   ธงประจำชาติที่ประกอบด้วยสีแดง Hotspur Red สีเขียว Fame Green และสีดำมาในลวดลายบนเสา C-Pillar และเส้นสีคู่ที่ศูนย์กลางของล้อรถเป็นตัวแทนของธงประจำชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เมื่อเปิดประตูรถออกจะพบกับกันรอยกาบบันไดเรืองแสงบีสโป๊กพร้อมคำว่า '50th'   การตกแต่งภายในที่เรียบง่ายสะท้อนถึงสีตัวถังภายนอก ด้วยหนังสีขาว Arctic White สีดำและสีแดง Hotspur Red ตัดกับลายปักสีเขียว Fame Green ของตราสัญลักษณ์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บนพนักพิงศีรษะแต่ละข้าง อีกทั้ง ยังมีจุดเด่นในการประดับตกแต่งคือลายสัญลักษณ์ฉลองครบรอบ 50 ปีสีทองบนแผงหน้าปัดด้านหน้า พนักพิงหลังของเบาะด้านหลังห้องโดยสาร และบนโต๊ะปิกนิก นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังโดดเด่นด้วยเพดานห้องโดยสาร Starlight Headliner ที่งดงามพร้อมด้วยลูกเล่นที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง Shooting Star ในโทนสีเขียว

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ