MG GS เร้าใจทุกเส้นทาง เต็มอารมณ์ทุกการขับขี่
- โดย : Autodeft
- 1 ก.ค. 59 00:00
- 17,918 อ่าน
ทุกวันนี้เราทุกคน ต่างมีภาระหน้าที่ ที่แตกต่างกันออกไป เวลาที่จำกัดมักมาพร้อมภาระที่มากขึ้น รถยนต์จึงถือว่ามีบทบาทสำคัญในการใช้งาน และถ้ารถยนต์คันนั้นสามารถสนองตอบการใช้งานทุกอย่างได้อย่างลงตัว ในทุกอย่างทีคุณต้องการมันคงจะน่าสนใจไม่น้อย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา MG เป็นบริษัทรถยนต์ที่เข้ามาอยู่ในใจใครหลายคน ที่ต้องการมองหาความแปลกใหม่ในการขับขี่ พวกเขาพยายามนำเสนอรถยนต์ที่ครบครันทุกฟังชั่นในการขับขี่ไม่ว่าจะการออกแบบ ไปจนถึงการขับขี่และลูกเล่นสุดทันสมัย ผ่านระบบ inkaNet หากไม่มีครั้งไหนที่ทำให้ขาแรงอย่างผม ต้องหูผึ่งได้มากเท่าการเปิดตัวรถยนต์ MG GS SPORT SUV รุ่นแรกของบริษัท ที่มาพร้อมสมรรถนะระดับรถสปอร์ตในเรือนร่างรถอเนกประสงค์
218 แรงม้า จากเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ตอนรับกุญแจมาทีแรก ผมรู้ทันที่ว่าเจ้า MG GS ต้องเร้าใจสมรรถนะอย่างแน่นอน
เดินออกมาที่รถ ผมว่านี่คือ MG ที่ออกแบบได้อย่างลงตัวรุ่นหนึ่ง ด้านหน้ายังเปื้อนด้วยเอกลักษณ์ของความสปอร์ตที่มาพร้อมสไตล์ที่ดูโดดเด่นสะดุดตา เรียบง่ายในการออกแบบแต่ครบฟังชั่นในการใช้งาน อาทิ โคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหน้าแบบ HID ผสานแนวทางการออกแบบใหม่ DIAMOND FLOW DESIGN ทำให้รถดูโฉบเฉี่ยวแข็งแกร่งในทุกการเดินทาง ตั้งแต่ด้านหน้ามายังด้านข้างลงตัวกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีทูโทน มีเอกลักษณ์ความสปอร์ต
ส่วนด้านหลังตอบความสปอร์ตด้วยไฟท้ายแบบ LED และที่คอสปอร์ตจะต้องถูกใจนักหนา ก็น่าจะไม่พ้นหลังคาสีดำ ดูดุดันมาขึ้น มาพร้อมหลังคา ซันรูฟควบคุมการเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เรียกว่าครบเครื่องตัวจริง
เปิดประตูสู่ห้องโดยสาร MG GS ต้อนรับการขับขี่ ด้วยการออกแบบภายในสีดำ PIANO BLACK หน้าปัดที่สามารถเปลี่ยนเป็นสีแดงได้เมื่อเข้าโหมดสปอร์ต พวงมาลัย 4 ก้านที่สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง หรือจะเป็น ชุดเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ฝั่งคนนั่งปรับได้ 4 ทิศทาง และเบาะหลังปรับเอนได้ 14 องศา อำนวยความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
และในแง่ของการอำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่ ผมว่ามันมีมากพอในระดับหนึ่ง เริ่มจากชุดเบรกมือไฟฟ้า และระบบ AUTO VEHICLE HOLD ในรุ่นนี้พวงมาลัยเป็นแบบไฟฟ้า จัดมาให้ครบครัน ใช้งานง่าย ตัวพวงมาลัยมีระยะฟรีเล็กน้อยเพื่อไม่ให้รถเสียการทรงตัวหรือกระชากเมื่อคุณขับแล้วเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว
ตรงกลางเป็นศูนย์รวมความบันเทิงและข้อมูล ทำงานผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รวมถึงฟังก์ชั่น inkaNet ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ ซึ่งครอบคลุมระบบนำทาง ทั้งตรวจเช็กความพร้อมและความปลอดภัยของรถ
ใต้ฝากระโปรง ผมเอ่ยไปแล้วว่า MG GS ใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ผมกล้าพูดว่าในรถยนต์ระดับเดียวกันในราคาระดับเดียวกัน MG GS ถือว่ามีสมรรถนะในการขับขี่แรงที่สุดแล้ว
ผมตวัดพวงมาลัยออกจาก MG Driving Experience Centre ก็ต้องขอลองดีทันที เหยียบมิดติดพื้น เจ้า MG GS พุ่งทะยานออกตัวอย่างรวดเร็ว เพียงอึดใจเดียวเราแตะที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม มันเป็นรถที่แรงระดับเดียวกับรถสปอร์ตบางรุ่น แถมแรงบิด 350 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 2,500-4,000 รอบต่อนาที ก็ไม่ธรรมดา คุณจะรู้สึกถึงอาการหลังติดเบาะ ได้ทุกครั้งที่ออกตัวรอบเร่ง
ยิ่งขับมันผมยิ่งยิ้ม ทุกครั้งที่มีใครสงสัยว่า MG GS แรงแค่ไหน ผมก็จะเหยียบมิดคันเร่งลงไปเพียงแค่นั้น เพื่อนร่วมทางเราก็จะหายไปเป็นจุดอยู่บนกระจกหลัง มันตอบคำถามกับเพื่อนร่วมทางที่สงสัยทันทีว่า สรุปรถมันแรงจริงหรือไม่ และเมื่อยิ่งมองในภาพรวมสมรรนถะการขับขี่ จากระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด และ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง ที่อาจจะเซทมาค่อนข้างแข็งในการขับขี่สักหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่า ที่ต้องและจำเป็นจะเซ็ทแข็งเช่นนี้ เพื่อสอดรับกับพละกำลัง 218 แรงม้า คุณคงไม่อยากจะหลุดโค้งถ้าบังเอิญขับเร็วจนเผลอเข้าโค้งระดับ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และการเซทรถแบบนี้ ที่เข้ากับคำว่า BRIT DYNAMIC ปรัชญาการสร้างรถยนต์ของ MG ให้มีสมรรถนะในการขับขี่ที่มั่นใจ
ไม่นับรวมพวกระบบความปลอดภัยต่างๆ จากชุดระบบ SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEMเจ้า MG GS ก็เป็นอเนกประสงค์ที่ทั้งทรงสมรรถนะและให้ความลงตัวได้ในตลอดทุกการขับขี่
MG GS อาจจะเป็นสปอร์ต SUV ที่หลายคนมองอยู่ หลายคนอยากจะถามตรงๆ ว่ามันแรงจริงไหม ...ผมตอบเลยว่าจริง และคุณหารถยนต์สมรรถนะสูงขนาดนี้ในราคาระดับเดียวกันนี้ไม่ได้อีกแล้ว แถมยังมั่นใจในการขับขี่อีกด้วย
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม http://www.mgcars.com/th/mg-models/mggs/detail/overview
หรือทดสอบความแรง http://www.mgcars.com/th/TestDrive
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com