Hands On: สัมผัสยนตรกรรมซาลูน Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ใหม่ อีกที่สุดของความหรูหราและเร้าใจ

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 29 ม.ค. 61
  • 34,047 อ่าน

หลังจากเผยโฉมครั้งแรกที่งาน Thailand International Motor Expo 2017 ที่ผ่านมา Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ใหม่ล่าสุด ซาลูนสุดหรูหราพร้อมระบบขับเคลื่อน plug-in ไฮบริด ล่าสุดเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบสมรรถนะยนตรกรรมซาลูน 4 ประตูรุ่นใหม่นี้ ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

อีกหนึ่งโอกาสอันดีที่ทาง ทีมงาน AutoDeft ได้เข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ กับทาง ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โดยสนามทดสอบในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นกับรูปแบบสนามทดสอบสมรรถนะทั้ง 3 สถานีหลักด้วยกัน ได้แก่ สถานี Handling การทดสอบบังคับควบคุมรถ ซึ่งจะทดสอบการทรงตัวและการตอบสนองพวงมาลัยของรถอย่างรวดเร็ว สัมผัสความรู้สึกขณะขับขี่ในการตั้งค่า Porsche Active Suspension Management (PASM) รวมถึงสถานี Braking สร้างความมั่นใจและปลอดภัยได้ทุกสถานการณ์ด้วยระบบเบรกมาตรฐานจากปอร์เช่ และสถานี Slalom ทดสอบความแม่นยำของช่วงล่าง จากระบบอัจฉริยะของปอร์เช่ อาทิ Porsche Dynamic Chassis Control Sport (PDCC Sport) ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง Rear axle steering หรือระบบควบคุมตัวถัง Porsche 4D Chassis Control เป็นต้น

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

เริ่มต้นกันด้วย สถานี Braking สถานีนี้ทีมงานได้สัมผัสทั้งอัตราเร่งจากหยุดนิ่ง ที่ต้องขอบอกว่าแรงแบบพุ่งทะยานออกในทันทีที่กดคันเร่ง ก่อนที่จะต้องเบรกแบบกะทันหันพร้อมหักเลี้ยวหลบไพลอนไปทางซ้ายและกลับสู่ทางตรงจนหยุดนิ่ง ในสถานีนี้ทำให้สัมผัสได้ถึงความสามารถของตัวรถด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งความเร็ว พละกำลัง การควบคุม การทรงตัว และประสิทธิภาพในการเบรกจนรถหยุดนิ่ง ที่ระบบต่างๆ ของตัวรถได้เข้ามาช่วยเหลือทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

ซึ่ง Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ใหม่นี้ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่รีดกำลังได้ถึง 550 แรงม้า ทำงานร่วมกับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า 136 แรงม้า ซึ่งจากการทำงานร่วมกันของ 2 ระบบขับเคลื่อน ได้มอบพละกำลังสูงสุดถึง 680 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 850 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบการทำงาน 1,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 8 จังหวะ Porsche Doppelkupplung (PDK) เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้ฉับไวและแม่นยำ ทำให้ขับผ่านสถานีแรกนี้ไปอย่างรวดเร็ว

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

ก่อนที่จะตรงไปทางด้านหลังของสนามเพื่อเข้าสู่สถานี Handling ที่จะได้ควบเจ้า Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ผ่านโค้งต่างๆ ที่ได้ถูกเซ็ตขึ้นเป็นเส้นทางบนสนามให้ได้ลองวิ่งด้วยความเร็วระดับต่างๆ ตัวรถให้ความมั่นใจพร้อมการควบคุมที่สั่งได้ พวงมาลัยมีการตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม ด้านพละกำลังหายห่วงเพียงต้องการและกดคันเร่งตัวรถก็พร้อมที่จะพุ่งทะยานออกไปข้างหน้าทันที ทั้งนี้ตัวรถยังสามารถปรับตั้งค่าการขับขี่ได้ทั้งแบบนุ่มนวล ปกติ รวมไปถึงแบบสปอร์ตได้อย่างง่ายดายผ่านหน้าจอระบบสัมผัส และการปรับตั้งค่าความแข็งของช่วงล่างรวมไปถึงความสูงของตัวรถได้อีกด้วย

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

และสุดท้ายกับสถานี Slalom การขับขี่สลับไปมาซ้ายทีขวาทีด้วยความเร็วระดับนึงราว 60 กม./ชม. ขึ้นไป เจ้า Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ใหม่ ก็สามารถพาลัดเลาะผ่านไปได้แบบสบายๆ โดยเฉพาะในโหมด Comfort ก็ให้ความรู้สึกของตัวรถที่นุ่มนวล อาการโคลงโยนไปมาเรียกได้ว่าแถบไม่มีเกิดขึ้นเลยก็ว่าได้ ครั้นเมื่อใช้โหมดสปอร์ตตัวรถปรับช่วงล่างที่แข็งขึ้น ให้การขับขี่ในสถานีนี้สามารถใช้ความเร็วและความแม่นยำได้สูงขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมๆ กับความรู้สึกของช่วงล่างและการเกาะถนนที่รู้สึกได้อย่างชัดเจน

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo

และสำหรับ Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo นี้ ได้มาพร้อมความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่มีแนวหลังคาที่ลากยาวต่อเนื่องจรดท้ายรถ เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นสปอร์ต ซาลูนนั้น มีส่วนช่วยให้การเข้าและออกจากห้องโดยสารตอนหลัง มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางเท้าสำหรับผู้โดยสารตอนหลังได้มากขึ้นกว่ารุ่นปกติ ส่วนของฝากระโปรงท้ายมีขนาดใหญ่สามารถเปิดกว้างด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งส่วนของเบาะนั่งตอนหลังนี้สามารถใช้งานในแบบ 2+1 มีความจุห้องเก็บสัมภาระท้าย 425 ลิตร เบาะที่นั่งตอนหลังสามารถพับราบลงกับพื้นหรือแยกพับในสัดส่วน 40:20:40 ผ่านสวิทช์ปลดล็อคระบบไฟฟ้าภายในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เมื่อคิดจากพื้นรถจรดแนวหลังคา ปริมาตราความจุเพิ่มขึ้นสูงสุด ถึง 1,295 ลิตรทีเดียว

แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆ ที่ได้สัมผัส Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ใหม่นี้ ก็พอทำให้ได้รับรู้ถึงสมรรถนะการขับขี่ที่มีทั้งความนุ่มนวลแสนสบาย หรือเมื่อใดที่ต้องการความเร้าใจก็พร้อมตอบสนองในทันทีทันใด

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ