Life Test: TATA XENON SINGLE CAB 150 NX-PERT เกิดมาขนและลุย

ตัวเลือกแรกๆที่เราจะนึกถึงเมื่ออยากได้รถกระบะเพื่อไว้ใช้ขนของก็ย่อมเป็นประเภทรถกระบะตอนเดียว ซึ่งในตลาดก็มีให้เลือกอยู่มากมาย แต่ถ้าอยากได้แบบกระบะเรียบไม่มีซุ้มล้อนูนๆมาให้เกะกะ ตัวเลือกก็จะลดน้อยลงไปอีก แถมถ้าอยากได้ลุยๆแบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วย ก็แทบจะมีตัวเลือกน้อยไปใหญ่ และ TATA XENON SINGLE CAB 150 NX-PERT ก็เป็นหนึ่งในนั้น

TATA ค่ายรถจากแดนโรตี ที่บุกตลาดเมืองไทยด้วยรถกระบะ เน้นจุดขายที่แตกต่างไม่ว่าจะเป็นกระบะท้ายเรียบและใช้ก๊าซ CNG แบบจุใจ หลายคนอาจจะค่อนขอดว่า รถจากอินเดีย จะสู้รถจากทางฝั่งญี่ปุ่นหรือยุโรปหรืออเมริกาได้เหรอ ของแบบนี้พูดตรงๆว่า ถ้าไม่ได้ลองใช้จริงคงไม่รู้ ผมเลยขอความอนุเคราะห์จากทาง ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เพื่อขอยืมรถมาทดสอบในการใช้งานจริงซักหน่อย ดูว่าจะใช้งานได้ดีจริงมั้ย

หลังจากรับรถมาแล้ว ก็เริ่มมาสัมผัสกันด้วยสายตาก่อน  รูปลักษณ์ภายนอกนั้นดูออกแนวถึก บึกบึน และใหญ่มากๆ อาจจะเป็นเพราะตัวกระบะ ที่ถูกออกแบบให้เป็นแบบกล่อง 4 เหลี่ยมไม่มีซุ้มล้อมาขวางให้เกะกะการวางของ เลยทำให้ตัวขอบกระบะยื่นออกมาด้านข้างเกินกว่าตัวรถ เหมือนกับรถบรรทุก 6 ล้อทั่วไป ตัวรถดูโย่งกว่ากระบะขับ 2 แต่ไม่สูงเท่ากระบะขับ 4 ทั่วไป (มองจากสายตา) ตัวรถมีสีเดียวคือสีขาว เนื่องจากทำมาเพื่อตอบสนองตลาดในส่วนของการขนของ เลยไม่จำเป็นต้องทำสีอื่น ตัวกระบะเปิดได้ 3 ด้าน ตอบโจทย์ด้านการขนส่งอย่างเต็มที่ ส่วนอื่นๆก็ไม่มีอะไรโดดเด่นมาก แต่เชื่อว่าข้างในน่าจะมีดีอีก ว่าแล้วก็เริ่มลองขับกันเลย

ตอนก้าวขึ้น TATA XENON SINGLE CAB 150 NX-PERT นั้น อาจจะดูขัดนิดหน่อยตรงที่เป็นรถขับ 4 ที่ไม่มีบันไดข้างและหูจับเพื่อดึงตัวขึ้นนั่ง ถ้าเพิ่มเติมส่วนตรงนี้ได้ก็คงจะดีไม่น้อย ส่วนท่านั่งก็จะหลังตรงตามสไตล์ของกระบะตอนเดียวทั่วไป ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ขับรถแล้วชินกับการเอนเบาะไปข้างหลังมากกว่านี้ ก็เลยจะเป็นท่านั่งที่เมื่อยหน่อย (สำหรับผม) แต่เรื่องความกว้างหายห่วง โดยรถคันนี้มาด้วยเครื่องดีเซลขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว คอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร เกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Shift - On - The - Fly ที่เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนได้ขณะรถวิ่ง และเฟืองท้ายแบบ Limited Diff Lock ยืนยันได้ว่ารถคันนี้สามารถขนและลุยได้เกือบทุกพื้นที่แน่นอน แผงแอร์และเครื่องเสียงดูสวยงามเกินกว่าที่ให้คนงานใช้ขับ แถมเครื่องเสียงยังรองรับระบบการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทางสาย USB ได้อีกด้วย ถือเป็นออพชั่นที่ดูเกินกว่ารถขนของทั่วไปจริงๆ วัสดุที่ใช้ประกอบภายในก็ดูแข็งแรง และไม่ดูกิ๊กก๊อก ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว หลังจากดูภายในผ่านสายตาเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มลองใช้งานกันเลยครับ

จริงๆแล้วตอนแรกอยากจะทดสอบการขนส่งดูด้วย ว่ามันจะอึดขนาดไหนเมื่อต้องขนของหนักๆ แต่ไม่มีโอกาสเพราะความขี้เกียจขนของเข้าครอบงำ (ฮ่าๆๆ) ก็เลยวิ่งรถเปล่าตามทางในเมืองปกติ และมีวิ่งตามชานเมืองบ้างเล็กน้อย หลังออกตัวได้ก็สัมผัสได้ถึงความ “แข็ง” ของช่วงล่างจริงๆครับ อย่างที่บอกว่าปกติจะใช้รถเก๋งในการเดินทางอยู่ทุกวัน การทดสอบรถส่วนใหญ่ก็เจอรถเก๋งหรือไม่ก็กระบะยกสูง ที่จะออกแบบให้มีความนุ่มนวลกว่านี้ ตอนขึ้นขับ  TATA XENON SINGLE CAB 150 NX-PERT ครั้งแรกก็รู้สึกเลยว่า ช่วงล่างมันกระเด้งมากจริงๆ แทบจะสัมผัสได้ถึงทุกความขรุขระของถนน แต่ก็ต้องเข้าใจครับว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับน้ำหนักได้มากๆ ถ้ามัวเอาใจคนขับให้นั่งนิ่มๆ ดูท่าจะขนไปไม่รอด ความรู้สึกในการขับเลยออกมาแบบนี้ (ผมดันทะลึ่งเอามาทดสอบใช้วิ่งปกติเอง 555)

ตัวคันเกียร์นั้น ออกแบบมาสวยจริงครับ หัวมันคล้ายกับจะเป็นเกียร์อัตโนมัติได้เลย แต่ส่วนตัวผมว่าหัวมันออกจะใหญ่ไปซักหน่อย และก้านออกจะยาวไปนิด ก็เลยไม่ค่อยถนัดเหมือนหัวกลมๆเล็กๆทั่วไป แต่การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ดี ไม่มีสะดุดในการเปลี่ยนทุกเกียร์ เลยทำให้การขับขี่ไหลลื่นไปตามความเร็วที่ทำได้เลยครับ กำลังเครื่องก็ไม่มีปัญหา ถึงมันจะไม่ปรู๊ดปร๊าด แต่เมื่ออยากเพิ่มความเร็วเมื่อไหร่ มันก็มาให้แบบไม่อึดอัด แต่การเร่งเครื่องแต่ละครั้งอาจจะแลกมากับเสียงของเครื่องยนต์ที่ดูจะเข้ามาในห้องโดยสารมากไปหน่อย แต่มันจะมันส์เท้าตรงที่เสียงของเทอร์โบในการหมุนมันชัดมากๆ ชัดแบบเพราะด้วย เรียกได้ว่าใครที่ชอบบริโภคเสียงเทอร์โบ มีหวังได้ย่ำกันทั้งวันแน่นอนครับ

ตัวพวงมาลัย ตัวดีไซน์อาจจะดูธรรมดา แต่มันก็ใช้ถนัดมือ แผงหน้าปัดก็ชัดเจน แต่ออกจะแปลกกว่ารุ่นอื่นตรงที่วัดรอบเขาคูณ 100 ไม่ใช่ 1,000 เหมือนส่วนใหญ่ บอกได้ครบเท่าที่จำเป็น มองเห็นได้ชัดตอนขับขี่ ส่วนวิสัยทัศน์ด้านหน้าและข้างไม่มีปัญหาอะไร ติดตรงด้านข้างที่เราไม่ชิน ที่มันมีกระบะยื่นออกมาข้างรถ เลยอาจทำให้คอยจะพะวงว่าเหมือนจะมีรถมาด้านข้างอยู่ตลอด แต่เมื่อใช้ไปซัก 2-3 วันก็ชิน ไม่มีผลต่อการมองเห็นด้านข้างแต่อย่างไร

สิ่งที่  TATA XENON SINGLE CAB 150 NX-PERT ทำได้ดีมากๆคือ เรื่องของการทรงตัว เพราะจากการได้ลองเข้าแรงๆที่หลายโค้ง รวมทั้งส่งลงจากสะพานข้ามรามอินทราจากเลียบด่วนลงวัชรพล รถไม่มีอาการเอาโค้งไม่อยู่เลย นิ่งมาก มากกว่ารถเก๋งบางคันที่เคยขับด้วยซ้ำ มั่นใจได้มากจริงๆ แถมวงเลี้ยวก็ไม่กว้างอย่างที่คิด กลับรถตามถนนในเมืองได้โดยไม่มีปัญหา จากนั้นก็เริ่มเล่นระบบขับ 4 ด้วยการลองเปลี่ยนขณะขับ โดยสวิตซ์เปลี่ยนอยู่ด้านข้างพวงมาลัย อาจต้องก้มไปหมุนนิดหน่อย ตรงนี้อาจจะต้องอาศัยความเคยชินว่าจะหมุนไปทางไหน เพราะปุ่มค่อนข้างเล็กมองไม่ชัด แต่ก็ไม่ยากต่อการเปลี่ยนแต่อย่างไร เมื่อเฟืองล้อหน้าหมุน อาจจะมีเสียงที่ดังกว่าระบบขับ 4 ของคู่แข่งอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่มีปัญหากับการใช้งานแต่อย่างไรเช่นกัน ข้างปุ่มปรับการขับเคลื่อน ก็มีปุ่มปรับระดับความสูงต่ำของไฟหน้าได้ด้วย ออพชั่นมันมาเกินกว่ารถกระบะสำหรับคนงานขับจริงๆ

หลังจากมาถึงบ้าน ก็นึกได้ว่ามีคิวจะต้องเอารถมอเตอร์ไซค์ไปซ่อม เลยได้โอกาสที่จะลองขนดูซักหน่อยว่าเป็นอย่างไร โดยยกรถขึ้นทางด้านข้าง ปรากฏว่า ขนาดเอารถมอเตอร์ไซค์แบบออโตเมติค 125 ซีซีขึ้นไปวางแบบขวางกระบะ ยังปิดฝากระบะได้เลย แสดงว่าถ้าเรียงดีๆ TATA XENON SINGLE CAB 150 NX-PERT คันนี้สามารถขนมอเตอร์ไซค์ได้มากถึง 4-5 คันเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่ต้องการใช้งานเพื่อขนส่งของ รถคันนี้ตอบโจทย์เรื่องการขนได้แน่นอน

หลังจากใช้งานมา 3-4 วัน ถือได้ว่ารถกระบะจากแดนโรตีคันนี้มีดีอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเรื่องของกำลังเครื่องที่ดีพอสมควร การทรงตัวที่ดีเยี่ยม กระบะที่ขนของได้จุใจ ออพชั่นมีมากมายเกินกว่าจะเป็นรถตอนเดียวให้คนงานขับ และที่สำคัญ ยังมีระบบกันขโมยด้วยกุญแจรีโมท พร้อมระบบ Immobilizer ที่รถเก๋งบางรุ่นยังไม่มีด้วยซ้ำ แถมราคาค่าตัวอยู่ที่เพียง 564,900 บาท ลองนึกว่าถ้าคุณเป็นเกษตรกรชาวไร่ ที่อยู่ตามภูเขาถนนลูกรัง แล้วอยากหารถเพื่อใช้ขนสินค้าเกษตรซักคันที่สามารถลุยป่าฝ่าดงได้ ผมว่า TATA XENON SINGLE CAB 150 NX-PERT จะตอบโจทย์การใช้งาน แถมคุ้มค่าราคาได้มากเลยครับ

Earthpark02

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com