Hands On : Mitsubishi Pajero Sport .... สัมผัสแรกอเนกประสงค์ล้ำสมัย the Perfection with in
- โดย : สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม
- 17 ส.ค. 58 00:00
- 61,906 อ่าน
พบเลยกับครั้งแรกของเรากับการทดสอบรถยนต์อเนกประสงค์ Mitsubishi Pajero Sport 2016 ใหม่ ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ สัมผัสแรกเป็นอย่างไร ติดตามได้เลยครับ
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
กล่าวถึงรถยนต์ที่ตลาดรถยนต์ทั่วโลกต่างให้ความสนใจได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ถือเป็นการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหาความลงตัวในด้านต่างๆในการใช้งาน เพื่อสนองความต้องการในการดำเนินชีวิต ที่ความหลากหลาย
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้ค่ายรถยนต์ชั้นนำอย่าง Mitsubishi มองว่าพวกเขา นอกจากจะมีเป้าหมายในการเป็นเจ้าตลาดรถยนต์นั่ง พลังไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehcle) ตามที่เคยฝันใฝ่ไว้แล้ว ต่อจากนี้พวกเขายังมองตัวเองว่า จะต้องเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ด้วยการมีรถยนต์ที่ตอบโจทย์อันหลากหลาย
ทดสอบรถอเนกประสงค์ Mitsubishi Pajero Sport 2016
ย้อนไป 2 ปีที่แล้ว Mitsubishi ประกาศแผนธุรกิจใหม่ในพัฒนาตัวเองมาเป็นเจ้าตลาดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ โดยหนึ่งในโครงการพัฒนาที่ประกาศออกมาตอนนั้นคือการพัฒนารถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ขึ้นมา เคียงข้างการแนะนำ Mitsubishi Triton ในฐานะรถกระบะที่ได้รับความนิยามมายาวนาน และท้ายสุด กาลเวลาก็มาถึงหลังจาก Mitsubishi เปิดตัวรถยนต์ อเนกประสงค์ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ และนี่คือครั้งแรกระหว่างเรากับอเนกประสงค์ที่กำลังกลายเป็นกระแสอันร้อนแรงในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์บ้านเรา กับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้หลายคนตัดสินใจในจองมันในทันที จนมียอดจองทะลักถึง 2,248 คันในงาน Big Motor Sale
ก่อนจะไปไกล ...เราต้องบอกก่อนว่า บทความนี้ เป็นเพียงการทดสอบคร่าวๆ ของ รถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ซึ่งเป็นการทดสอบในสถานที่ปิด บนสนามทดสอบ Mitsubishi Proving Ground สนามทดสอบรถยนต์แห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ของค่ายทรีไดมอนด์ที่สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทย ว่า ค่ายรถยนต์รายนี้จริงจังกับการพัฒนารถยนต์ในประเทศไทยอย่างมาก รวมถึงรถที่เราขับทุกคันในวันนี้เป็นรถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport ในเวอร์ชั่น PP หรือ Pre-Production (มีความเหมือนกับเวอร์ชั่นวางจำหน่ายจริงที่จะส่งมอบให้ลูกค้า)
พบกันนอกสังเวียนเวที Big Motor Sale ครั้งนี้ Mitsubishi Pajero ใหม่ยังทำให้เราประทับใจเหมือนเช่นที่ผ่านมา ด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ในการพัฒนารถยนต์อเนกประสงค์ ให้มีความลงตัวในการออกแบบมากกว่าเดิม
พวกเขาสื่อสารผ่านการออกแบบ เส้นสายใหม่ด้วยการแนะนำเอกลักษณ์ใหม่ Dynamic Shield ทางด้านหน้าของตัวรถ ซึ่งคุณจะรู้สึกถึงความอลังการในความทันสมัยของ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ จนตะลึง!!! สตันไป 1 วินาที ว่ารถอเนกประสงค์ของค่ายมิตซูบิชิมีการเปลี่ยนแปลงไปมากจนน่าประทับใจ
กระจังหน้าใหม่แบบโครเมี่ยมมีความซับซ้อนในการออกแบบนิดหน่อย ตอบความลงตัวในการออกแบบ เข้ากับไฟหน้าที่มีความโฉบเฉี่ยว ให้ความรู้สึกที่ดูสปอร์ตและมีความแข็งแกร่งในการออกแบบ ให้ความรู้สึกที่ดูลงตัว และยังสามารถคงเอกลักษณ์ดีเอ็นเอหลักของมิตซูบิชิเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
ไฟหน้าโปรเจคเตอ์ตอบโจทย์ความลงตัวด้วยชุดไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมระบบปรับระดับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ และยังมีไฟส่องสว่าง เวลายามวิ่งกลางวัน Day Time Running Light , Spectrum LED ช่วยเสริมภาพลักษณ์บุคคลิกยามขับขี่ให้มีความลงตัวตามสไตล์รถยนต์นั่งหรูราคาแพงมากขึ้นด้วย
เส้นสายทางด้านหน้าขัดเกลาต่อเนื่องสู้ด้านข้างให้ลายเส้นที่มีคมสันเล็กน้อย โป่งล้อทางด้านหน้าและด้านหลังให้ความรู้สึกบึกบึนลงตัว ตามสิ่งที่รถยนต์อเนกประสงค์ควรจะมีในตัวตนของรถประเภทนี้ แต่ท้ายสุดแล้ว ความลงตัวในการออกแบบกลับถูกขลับให้ดูแปลกตาในการออกแบบ ด้วยบั้นท้ายรถที่ออกแบบให้มีการตัดตก จนคุณจะรู้สึกว่าท้ายของ Mitsubishi Pajero Sport นั้นค่อนข้างดูสั้น ไปเล็กน้อย ..ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความต้งการที่ทำให้รถความคล่องตัวหากใช้งานในเมือง
ทว่าในเรื่องการออกแบบเจ้ารถ Mitsubishi Pajero Sport กลับให้ความแปลกตาด้วยไฟท้ายทรงตั้ง ค่อนข้างสร้างความประหลาดใจให้กับเรามากพอสมควร ที่พวกเขาเลือกจะออกแบบไฟท้ายมาในลักษณะนี้ แถมชุดไฟท้ายนี้ยังยาวถึงช่วงปลายล่างชายกันชน น่ากังวลกับใครที่ใช้งานรถในเมืองเป็นประจำ มักจะสะเพร่าเล็กน้อยว่า อาจจะมีความเสี่ยงต่อความเสียหายในระหว่างการใช้งาน
เปิดประตูเข้าสู่ห้องโดยสาร Mitsubishi Pajero Sport ต้อนรับด้วยความโอ่อ่าปนความหรู แถมท้ายด้วยสัมผัสของความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์อันทันสมัยในตัวตน ที่ยังดูมีความสปอร์ต ไม่ว่าจะการออกแบบชุดคอนโซลหน้าที่ดูมีความลงตัวอย่างมาก เริ่มจากพวงมาลัยแบบสี่ก้านให้ความรู้สึกในการออกแบบที่แตกต่างจากเพื่อนร่วมสายเลือด Mitsubishi Triton อย่างชัดเจน
วงพวงมาลัยมีขนาดกำลังเหมาะมือต่อการใช้งาน จัดการหุ้มหนังเสร็จสรรพให้สัมผัสความหรูหรา รวมถึงชุดพวงมาลัยยังปรับได้ 4 ทิศทาง ไม่ว่าจะยืด-หด เข้าออก หรือจะเป็นปรับขึ้นลงสูงต่ำ ก็ทำให้ง่ายต่อการทำให้เข้ากับสรีระผู้ขับขี่มากขึ้น บนวงพวงมาลัยมีปุ่มปรับต่างๆ อำนวยความสะดวกในการใช้งาน ไม่ว่าจะปุ่มควบคุมเครื่องเสียงทางด้านซ้าย หรือจะเป็นระบบปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติทางด้านขวา ถัดลงด้านล่างเป็นปุ่มควบคุมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนมาตรวัด ที่จะปรับง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
เบาะนั่งคู่หน้าเป็นแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ในรุ่นที่เราทดสอบวันนี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นรุ่น GT และ GT Premium ตัวเบาะถูกออกแบบให้ลงตัวในแบบ Ergo Design หรือออกแบบให้ตรงตามหลักสรีรศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่นเดียวกันเบาะนั่งแถวสอง ออกแบบให้มีความสามารถปรับพับได้ ในอัตรา 60/40 (ทางฝั่งซ้ายและขวาตามลำดับ) รวมถึงตัวพนักผิงหลังยังสามารถปรับเอนเพื่อเพิ่มความสบายในการโดยสารได้อย่างลงตัว
จะว่าไป การออกแบบเบาะนั่งตอนหลัง Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเกินคาด ด้วยการออกแบบชุดเบาะที่รับกับสรีรศาสตร์ ท่านั่งอยู่ในเกณ์ที่ไม่สูงเต่อ หรือเตี้ยเกินไปยามนั่งใช้งานจริง อย่างผู้เขียนเองที่มีความสูง 182 ซ.ม. ช่วงนี้ผอมหน่อย หนัก 88 กก. ก็สามารถที่จะนั่งได้อย่างสบาย ยิ่งในจังหวะที่ปรับเบาะเอนหลังลงไป ขับๆใน สนามทดสอบ นี่แทบจะพล้อยหลับไปกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี อย่างที่เราทราบกันมาโดยตลอดว่ารถยนต์อเนกประสงค์ในกลุ่ม Mitsubishi Pajero Sport ใหม่นี้ มีความลงตัวในการใช้งานในสไตล์ที่นั่งแบบ 5+2 หรือจะกล่าวให้ถูกต้องก็คือว่า ถ้าจำเป็นเจ้ารถอเนกประสงค์ Mitsubishi Pajero Sport คันนี้ จะสามารถรองรับอาคันตุกะได้ถึง 7 ที่นั่งเลยทีเดียว
เช่นเคย เบาะแถวสามของ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ยังคงความเป็นรูปแบบที่นั่งเสริม ที่จริงเหมาะสำหรับเด็กหรือสตรีตัวเล็กในการโดยสารมากกว่า แต่ว่าจากที่ลองนั่งในระหว่างช่วยการทดสอบก็พบว่า เบาะนั่งแถวสามนั้นพอจะให้คนตัวใหญ่นั่งได้ ถ้าอยู่ในสภาพจำยอม แต่ก็ไม่ควรคาดหวังเรื่องความสบายในการเดินทางให้มากนัก
และท้ายสุดถ้ามองหาเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทาง Mitsubish Pajero Sport ใหม่ ยังตอบความลงตัวในการโดยสารด้วย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่มีมาให้เป็นมาตรฐาน แต่ในรุ่น GT และ GT Premium จะสามารถปรับแยกอิสระซ้าย-ขวา ได้ด้วย คุณไม่จำเป็นต้องตบตีแย่งชิงเรื่องอุณหภูมิที่สร้างความสบายสูงสุดระหว่างคุณและตุ๊กตาหน้ารถ แถมทุกรุ่นยังให้ระบบกุญแจ KOS ทำให้มันได้ระบบปุ่มสตาร์ทเข้ามาตอบโจทย์เรื่องความสมัยไปด้วยเช่นกัน
ส่วนรื่องระบบความบันเทิงนั้นวันนี้ยังไม่มีโอกาสที่จะได้ลองระบบอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยที่สุดทุกรุ่นเป็นเครื่องเสียงระบบ 2 Din แต่ถ้าคุณเลือกคบหาในรุ่น GT หรือ GT Premium จะมาพร้อมระบบจอสัมผัส 7 นิ้ว สามารถเล่น CD , MP3 และยังสามารถเชื่อมต่อผ่านข่อง USB และระบบ Bluetooth รวมถึงมีระบบนำทางในตัว
และทางด้านหลังในรุ่น GT และ GT Premium ยังมีชุดจอ Roof Monitor ให้ความบันเทิงแก่ ผู้โดยสารทางด้านหลัง แถมยังให้ยังมีชุดหูฟัง อินฟาเรดให้ด้วย 2 ชุด ...
การทดสอบวันนี้เรียนตามตรงว่าเป็นการทดสอบในสถานที่ปิด Mitsubishi Proving Ground ดังนั้นเราจึงอยากเรียนตามตรงแก่ท่านผู้อ่านว่า นี่อาจจะไม่ใช่สภาพที่เกิดขึ้นบนสภาวะการบนถนนจริง เนื่องจากทั้งหมดเป็นการจำลองสภาพขึ้นมาให้เราได้ลองขับขี่กัน
แมทช์นี้ ทาง Mitsubishi เริ่มต้นด้วยการจัดแบ่งสถานีต่างๆ ออกเป็นสามสถานีให้เราได้ทดสอบในเรื่องต่างๆ ตามหัวข้อ โดยเราโชคดีที่มีโอกาสสัมผัสในหัวข้อ Performance กันก่อน....กลุ่มอื่น
ในการทดสอบ Performance ทาง Mitsubishi ได้เตรียมรถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport รุ่น GT (ขับเคลื่อนสองล้อ) ไว้ให้เราขับขี่ในสนามทดสอบ ซึ่งเป็นสภาพลาดยาง โดยในการทดสอบถูกจำกัดความเร็วไม่ให้เกิน 100 ก.ม./ช.ม. ตามข้อกำหนดของตัวสนามเอง
ขึ้นขับครั้งแรก Mitsubishi Pajero Sport เองเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวตนในความหรูหรา โดยวันนี้ผมมีนายเต้ยมาช่วยนั่งถ่วงน้ำหนักในเจ้าอเนกประสงค์ทันสมัย และเมื่อทุกอย่างพร้อม เวลาที่หลายคนรอคอยก็มาถึง
เราเข้าเกียร์ D เริ่มเดินคันเร่งออกตัว Mitsubishi Pajero Sport ยังคงสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันอาจจะยังไม่ลงตัวคือเรื่องของน้ำหนักพวงมาลัยที่ยังค่อนข้างหนักในระดับหนึ่งที่อาจจะพอดีกับผู้ชาย แต่กับสุภาพสตรีต้องเรียนตามตรงว่า หนักไปสักหน่อย แต่ถ้าคุณคิดว่าเป็นสาวบึกถึกทึน บ้าพลัง...ก็อาจจะตรงใจลงตัวก็ได้
การใช้ความเร็วต่ำในช่วงแรกทำให้เราเห็นการขับขี่ด้วย Walking Speed ของเครื่อง 4 N15 ต้นกำลังเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบต่อนาที น่าเสียที่เราเฝ้าอยากจะเห็นการวางเครื่องยนต์บล็อกนี้เป็นการให้กำลังแรงบิดต่อเนื่องในรถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport แต่ไม่เป็นไร ...เพราะเรากำลังจะรู้สมรรถนะของมันในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
“เลี้ยวขวา เข้าสนามเลยครับ” เสียงครูฝึกบอกเรา ทันทีที่เลี้ยวออก เราก็เริ่มไต่ความเร็วเข้าสู่ความเร็วสูงสุดที่กำหนดคือ 100 ก.ม./ช.ม. ไม่ขาดไม่เกิน
ในระหว่างที่เร่งความเร็วนั้น เราสัมผัสความดีงามของชุดเกียร์ใหม่ล่าสุดที่ติดตั้งมาใน Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ซึ่งทางค่ายทรีไดมอนด์เลือกใช้ระบบเกียร์จาก Aisin มาประจำการด้วยชุดเกียร์ 8 สปีด ใหม่ ซึ่งชุดเกียร์ใหม่สามารถส่งกำลังได้ต่อนื่องจนน่าประหลาดใจ มันเป็นชุดเกียร์ที่แสดงความสามารถ Seamless Gear Shifting หรือ ต่อเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง จนคุณจะต้องประหลาดใจว่านี่เกียร์เพิ่มตำแหน่งลดอัตราทดแล้วหรือ แม้กระทั่งในยามที่คุณขับขี่ด้วยโหมดสับด้วยมือผ่าน Paddle Shift เอง เจ้าชุดเกียร์อัตโนมัตินี้ก็ตอบความลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนเรามั่นใจว่า ในยามที่คุณซิ่งเร่งรีบทำเวลา ญาติผู้ใหญ่จะไม่มีวันรู้เลยว่าคุณกำลังทำความเร็ว ถ้าพวกท่านไม่เผลอมองออกไปนอกหน้าต่า งหรือ หันเอี้ยวมามองเรือนไมล์ว่าคุณกำลัง ใช้มือกระดิกเกียร์อย่างเมามันในอารมณ์
การไร้รอยต่อของชุดเกียร์ ส่วนหนึ่งมาจากการให้อัตราทดชุดเกียร์มากถึง 8 ตำแหน่ง ทำให้การขึ้นเกียร์ระหว่างอัตราทดจะไม่กระโดดจนคุณสามารถรู้สึกตัว เป็นข้อดีในตัวของ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่กล้าใช้ชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เข้ามาประจำการ
และในระหว่างที่เรากำลังชื่นชมระบบเกียร์เราก็มาถึงโค้งแรก ต้องลดความเร็วเหลือเพียง 70 ก.ม./ช.ม. เราเริ่มเปลี่ยนองศาพวงมาลัยช้าๆ เพื่อดูความแม่นยำของพวงมาลัย ซึ่งพวงมาลัยเจ้าอเนประสงค์คันนี้ทำได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะเมื่อกลับเข้าสู่ทางตรงเราค้นพบว่า Mitsubishi ไม่ได้เซทพวงมาลัย Mitsubishi Pajero Sport ให้มีจังหวะระยะฟรีเลยแม้แต่น้อย ถือว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับการสร้างอเนกประสงค์ที่เปียมดวยความสปอร์ต จนทำให้ผมนึกถึงตอน Q&A เมื่อครั้นเปิดตัว Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ซึ่งท่านประธาน Mitsubishi Motor ประเทศไทย คุณชกคิ ถูกนักข่าวท่านหนึ่งถามว่า “ท่านคิดว่าจะนำรถสปอร์ตหรือรถหรูของ Mitsubishi มาจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่” และคำตอบจากท่านประธาน.... “ก็เรามี Mitsubishi Pajero Sport ไงครับ”
เราลงมาจากสถานีแรกด้วยสิ่งเดียวที่เป็นข้อติติงในใจ คือพวงมาลัยค่อนข้างหนักไปหน่อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เราเคยมีโอกาสสัมผัสไปก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากคู่แข่งค่ายนั้น หันไปใช้พวงมาลัยแบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า หรือ Electric Power Steering (EPS) แต่ในตอนนี้เรากำลังเดินไปสถานีที่สอง ที่ทดสอบเรื่องของระบบกันสะเทือนตัวรถที่ Mitsubishi กล้าพูดว่า พวกเขาพยายาม ทำให้มันมีความลงตัวมากที่สุดในการขับขี่
หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อนว่าทำไม ต้องมีสนามทดสอบรถยนต์ในไทย ภายใน บริษัท Mitsubishi ส่วนที่สำคัญคือการพยายาม สร้างรถยนต์ที่สามารถตอบสนองในการใช้งานจริงได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปวิ่งทะเล่อภายนอกให้ถูกแอบถ่ายมาเผยแพร่บนโลกโซเชี่ยล
ที่จริงย้อนไปก่อนตอนเข้ามาทดสอบ ตอนลืมตาตื่นในรถตู้ที่พามาสนามทดสอบ ส่วนตัวนึกว่า Mitsubishi พาเรามาเรือนจำด้วย กำแพงสูงมีรั้วลวดหนามรายล้อม ถ้าไม่ติดป้ายว่า “Mitsubishi Motor Proving Ground” คงจะคิดว่าที่นี่เป็นเรือนจำอย่างแน่แท้ แต่ท้ายสุดแล้ว เราได้รู้ว่าที่เขาพยายามปกปิดทุกอย่างจากภยนอก เพื่อทดสอบรถให้เล็ดลอดสายตาจากคนภายนอกมากที่สุด รวมเก็บข้อมูลบางอย่างที่จำเป็นต่อการพัฒนารถยนต์รุ่นนั้นๆ
Mitsubishi Pajero Sport เป็นหนึ่งในรถรุ่นแรกที่มีความเชื่อมโยงกับสนามทดสอบแห่งนี้ และนาทีนี้เราก็ถึงเวลาทดลองบนสภาพถนนต่างๆ ที่จำลองเอาไว้ทุกแบบที่มีในประเทศไทย ตั้งแต่ การลาดยางแบบละเอียดและหยาบ ,สภาพถนนปะซ่อม ยังมีแม้กระทั่งฝาท่อกทม. หรือ จะเป็นสภาพต่างระดับเล็กๆ หรือ เส้นถนนครืดๆ!!! ทีมีเยอะในยุคนี้สมัยนี้
ไม่รู้จะโดน Mitsubishi ตีหัวเข้าบริษัทหรือเปล่า!! แต่ที่ต้องบรรยายขนาดนี้ เพราะ เมื่อเราขึ้นขับ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ เราเริ่มด้วยสภาพถนนลาดยางแบบหยาบและละเอียด ค้นพบว่า ระบบกันสะเทือนของเอนกประสงค์คันนี้มีความลงตัวในการขับขี่มากกว่าที่คิด
การเซทช่วงล่างด้านหน้าแบบ อิสระปีกนกสองชั้นพร้อมคอยย์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังใช้แบบทรีลิงค์ทอร์คอาร์ม พร้อมสปริงและเหล็กกันโคลง ช่วยให้รถสามารถซับแรงกระแทกได้ดีเกินคาด ยิ่งยามที่เรากำลังเข้าโค้งผ่านถนนปะ บอกได้เลยว่าช่วงล่างในเจ้ารถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ไม่มีดีดดิ้นให้ชวนหวาดเสียวแม้แต่น้อย
ระบบกันสะเทือนหลัง Mitsubishi Pajero Sport 2016
อย่างไรก็ดีด้วยตัวตนความเป็นสปอร์ตที่ให้มาเต็มพิกัดทำให้ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่กลับมีความลงตัวด้วยบุคคลิกช่วงล่างที่ค่อนข้างแน่นหนึบมันใจในการขับขี่พอสมควร แต่ความแน่นที่มากเกินไปนี้บางทีก็รบกวนจิตในบ้างยามคุณต้องขับในพื้นที่ต่างระดับอย่างต่อเนื่องมันก็ยังแอบความกระด้างเอาไว้ ซึ่งเราอนุมานเบื้องต้นว่า ในยามขับออฟโรดจะมีความกระแทกกระทั้นมากเป็นพิเศษ แต่ก็เป็นปกติของรถที่ใช้พื้นฐานวิศวกรรมแบบ Body On Frame ที่ต้องมีความกระด้างอยู่บ้างเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าสถานีนี้ในภาพรวมจะเป็นการเน้นในการขับขี่ให้ดูสมรรถนะช่วงล่างแต่ท้ายสุด เราก็ยังคงความห่ามในการทดสอบเล็กๆ เมื่อรอบสอง เราถูกขอให้เข้าสู่โหมดขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ แต่เราก็แอบขอลองอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถกระจายแรงบิดหน้า-หลัง ในอัตรา 50/50 ในสภาพถนนเปียก แต่ถนนแห้งแบบนี้การส่งกำลังจะถ่ายกำลังในอัตรา 40/60 และเมื่อพร้อม ผม เต้ยและครูฝึกเรา รวมสามชีวิตในรถ เราก็ออกตัวไปอย่างรวดเร็ว ทางมีจำกัดแต่เราเฆี่ยนเต็มที่หวังเห็นสมรรถนะ อัตราเร่ง และเราได้ตัวเลข 12.09 วินาที (ด้วยการจับเวลาง่ายๆ ด้วยมือถือ) ในการเร่งบนสภาพถนนคอนกรีตจำลอง ในสนามทดสอบ Proving Ground ถือว่าค่อนข้างโอเค แม้ว่าความรู้สกในตอนเร่งจะค่อนข้างดูอืดอาดนิดหน่อยก็ตามที
ในที่สุดหลังลงมาจากการขับขี่ เรามาจบที่สถานีที่สาม โดยเรารับบทเป็นผู้โดยสาร มิได้ขับขี่เอง ซึ่งเป็นการทดลองระบบความปลอดภัยแบบ Passive Safety ต่างๆ ให้เราได้เห็นกันอย่างจะๆ เริ่มจากระบบ Blind Spot Warning หรือ BSW ตามมาด้วยระบบเตือนการชนทางด้านหน้าและระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision mitigation system) ซึ่งระหว่างทดสอบมีการผิดพลาดเล็กน้อยระบบไม่ทำงาน แต่ทำงานในรอบที่สอง ซึ่งทางผู้ขับที่เป็นทีมงานญี่ปุ่นบอกว่าเขาตั้งพวงมาลัยไม่ตรง ในตอนทดสอบ แต่เมื่อตั้งพวงมาลัยตรงแล้ว ในรอบที่สองระบบก็ทำงานปกติดี
การแสดงระบบต่างๆ ยังรวมถึงตัวช่วยในการจอดเจ้ายักษ์คันนี้ด้วยชุดกล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor) ซึ่งใช้กล้องสี่ตัวรอบตัวรถมาประมวลผลในการสร้างภาพในมุมมองแบบ Bird Eye View และท้ายสุดยังแสดงให้เราเห็นการทำงานของระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (Ultrasonic Misacceleration mitigation system) ด้วยเช่นกัน
สรุปลงตัวได้ใจ Mitsubishi Pajero Sport ไม่ทำให้คุณผิดหวัง
จบการทดสอบในวันนี้ เรายังไม่ได้อะไรมาก....มันเป็นแค่เพียงสัมผสแรกในรถยนต์อเนกประสงค์ผลงานชิ้นโบว์แดงในรถยนต์อเนกประสงค์ Mitsubishi Pajero Sport ซึ่งภาพรวมของรถคันนี้เป็นไปด้วยดีลงตัวในการขับขี่ มีดีทั้งเครื่องยนต์ที่เร่งได้อย่างน่าพอใจ
รวมถึงระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีด ที่ตอบการไร้รอยต่อเกียร์ได้จนคุณจะทึ่งในการขับขี่ ตลอดจนระบบกันสะเทือนที่เซทออกมาได้อย่างลงตัวมาก ให้ความรู้สึกเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ดีเอ็นเอสปอร์ตและยังนุ่มนวลยามขับขี่ ในระดับที่น่าจะพอใจ
ผมลงมาจากรถประโยคคำเดียวกับ ทีมงาน Mitsubishi ว่า "เสียดายที่พวงมาลัยหนักไปหน่อย" (เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ใช้พวงมาลัยไฟฟ้า)ไม่งั้นรถคันนี้ จะไม่ใช่แค่ Design for Perfection แต่จะ Design&Engineering For Perfection แต่อย่างว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณแบบที่สุดในโลกนี้ ทว่าคุณจ่ายราคาแค่นี้ได้รถที่ดูดีมีสมรรถนะในระดับนี้ ....ไม่ต้องหรอกครับคำว่า “สมบูรณ์แบบ” แต่นาทีนี้ถ้าคุณมองหารถยนต์อเนกประสงค์ในกลุ่มนี้ที่มีความลงตัวในหลายๆเรื่อง .... ตั้งแต่การออกแบบไปยันการวิศวกรรม กล้าพูดเต็มปากเลยว่า Mitsubishi Pajero Sport คือตัวเลือกแรกที่ผมกล้าการันตีว่า มันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง....
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง Fan page ,Twiter (@nattayodc)
ขอบคุณ คุณ แตน คุณฝน คุณ ขวัญ และทีมงานประชาสัมพันธ์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญทีมงานเข้าร่วมทดสอบ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ในครั้งนี้
หมายเหตุ : การทดสอบครั้งนี้เป็นการทำในสถานที่ปิด จึงอาจจะมีความเห็นในรีวิวบางส่วนไม่เหมือนในการขับขี่สภาพการขับขี่จริง
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com