Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ความพอดีสำหรับครอบครัว

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 3 ก.ย. 63
  • 29,125 อ่าน

เมื่อโตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) ประกาศออกมาว่า จะเปิดตัวครั้งแรกของโลก ผมเชื่อว่าคนที่ติดตามวงการรถยนต์ส่วนใหญ่จะนึกถึงรถกระบะก่อนอยู่เสมอ เพราะอะไร? ก็เพราะว่าประเทศไทยเป็นฐานหลักของการผลิตรถกระบะใหญ่ที่สุดในเอเชียแล้ว แต่รอบนี้กลับพลิกล็อก เมื่อการเปิดตัวครั้งแรกของโลกรอบนี้ กลับกลายเป็นรถอเนกประสงค์ SUV อย่าง Toyota Corolla Cross ไปเฉยเลย

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

รอบนี้หลังจากการเปิดตัวของ Toyota Corolla Cross ทำเอาตลาดรถยนต์เมืองไทยมีแรงกระเพื่อมพอสมควร เพราะด้วยทั้งราคาและขนาดที่ดูแล้วกำลังพอดีสำหรับคนที่ต้องการซื้อเป็นรถคันแรก หรือเพิ่มขนาดของรถให้ใหญ่ขึ้นจะไซส์ของ Eco Car มาเป็นอเนกประสงค์ SUV หันมามองและสนใจกันมากอยู่ ถึงแม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ทางด้านหน้าตาว่ามันดูหน้า “บึ้ง” เกินไปหน่อยก็ตาม แต่จากยอดตัวเลขยอดขายตั้งแต่เปิดตัวจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2563 ได้เกินกว่า 1,200 คัน ก็เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีอยู่แล้ว

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

AUTODEFT เอง ก็ได้ไปร่วมทั้งงานเปิดตัว และได้ทำการเก็บภาพ รอบคัน รวมทั้งการขับทดสอบเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่บอกเลยว่ายังไม่จุใจ รอบนี้เลยขออนุญาตขอยืม Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety มาทำการทดสอบกันอีกรอบ เพื่อให้ได้ความละเอียดของตัวรถให้มากกว่าเดิม (ขอบคุณทาง โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) ด้วยนะครับ)

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

ก่อนเริ่มออกเดินทางเพื่อรีวิวรถยนต์ใหม่ เรามารับรู้ข้อมูลของตัวรถกันก่อนเลย โดย Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety เป็นรถอเนกประสงค์ SUV ขนาด Sub-Compact (หรือจะเรียกเป็น SUV-C Entry ก็ไม่ว่ากัน) ตัวรถมีขนาด 4,460 x 1,825 x 1,620 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) ฐานล้อกว้าง 2,640 มม. ตัวรถสูงจากพื้นถึงใต้รถ 161 มม. ส่วนโครงสร้าง แน่นอนว่าต้องเป็นแพลตฟอร์มขั้นเทพอย่าง Toyota New Global Architecture หรือ TNGA อย่างแน่นอน ช่วงล่างด้านหน้าเลือกใช้บริการแบบ อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังต้องการความแข็งแรงเลยใช้แบบ ทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ใส่ล้อแม็กซ์อัลลอยลาย 10 ก้านแบบ 2 โทนขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/50 R18 ของ Michelin Primacy ระบบห้ามล้อเป็นแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ Toyota Altis กับเครื่องยนต์ Hybrid รหัส 2ZR-FXE เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.8 ลิตร หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI ผลิตกำลังได้สูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสด 142 นิวตันเมตร แต่มีพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่เพิ่มพละกำลังได้อีก 53 กิโลวัตต์ แปลงเป็น HP ก็ได้ประมาณ 71 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร แต่เมื่อมา Combine การทำงานแล้ว จะได้พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า แต่ทางโตโยต้าไม่ได้บอกว่าแรงบิดจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ จะบวกกันก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ได้ถ่ายแรงโดยตรงลงที่ล้อ แต่ผ่านนั่นนี่นั่นก่อน กำลังอาจจะลดลง แต่ไม่รู้จริง ๆ ว่าเท่าไหร่ ใช้เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ในการขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนแบตเตอรี่ที่เอาไว้ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้านั้น ยังยืนยันที่จะใช้ชนิด นิกเกิลเมทัลไฮดราย อยู่ ทั้งที่โลกนี้ขยับไปใช้ลิเธียมไอออนกันเกือบหมดแล้ว ความจุอยู่ที่ 1.31 กิโลวัตต์ชั่วโมง วางอยู่ใต้เบาะหลัง เพื่อกดจุศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง และอยู่กลางรถมากขึ้น มีทั้งหมด 28 โมดูล 168 เซลล์

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ใช้งานไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมไฟ DRL แบบ LED Light Guiding พร้อมระบบ Follow-Me-Home หรูหรามากขึ้นด้วยไฟเลี้ยวแบบ LED อีกด้วย กระจังหน้าทรงตัว U คว่ำ เสริมด้วยกรอบสีดำและสีโครเมียม ตัวตะแกรงคล้ายทรงรังผึ้ง ที่เหมือนจะรับลมได้มาก แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้เป็นช่องรับลมทั้งหมด ยังมีส่วนด้านบนประมาณครึ่งหนึ่งที่มีแผงทึบกันลมเอาไว้ สัญลักษณ์ตัว T เป็นสีเงินพื้นดำ แต่มีเงาสีน้ำเงินเพื่อบ่งบอกความเป็นรถ Hybrid บอกเอาไว้ด้วย กันชนเป็นสีดำ แต่ชายล่างกันกระแทกเป็นสีเดียวกับตัวรถ มีไฟตัดหมอกแบบ LED เพิ่มความสว่างยามค่ำคืน กระจกข้างเป็นสีเดียวกับตัวรถกับสีดำสีละครึ่ง แทรกด้วยไฟเลี้ยวตรงกลางกระจก ปรับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติ ไฟท้ายเป็นแบบ LED แบบ Light Guiding มีไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นไฟ LED มีก้านปัดน้ำฝนกระจกหลัง มีสปอยเลอร์ด้านบนสีเดียวกับตัวรถเสริมความเท่ เสาอากาศวิทยุแบบครีบฉลาม มีราวหลังคาเพื่อเสริมตัววางของบนหลังคาได้ และที่ยอดเยี่ยมสุดคงเป็นฝาประตูท้ายแบบไฟฟ้า ที่ใช้งานแบบ Kick Activate ที่เราสามารถเตะไปที่ใต้ท้องรถแล้วฝาท้ายจะเปิดขึ้นให้อัตโนมัติเมื่อเราถือกุญแจอยู่

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

ภายในของ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety นั้น เลือกหุ้มเบาะด้วยวัสดุหนังและวัสดุสังเคราะห์ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะคนนั่งข้างปรับมือ เบาะหลังหุ้มด้วยหนังเช่นกัน มีที่รองแขนพับได้ และตัวเบาะเองก็พับได้แบบ 60:40 และยังเอนได้ 2 ระดับอีกด้วย คอนโซลกลางใช้เป็น PP เป็นวัสดุหลัก เสริมแทรกด้วยวัสดุ Piano Black ตัดของด้วยสีโครเมี่ยมเสริมความหรู ถึงแม้คอนโซลจะมีแต่ส่วนของ Hard Touch เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีส่วน Soft Touch แทรกเข้ามาให้ตรงฝั่งคนนั่งด้านข้างด้วย รวมทั้งที่บานประตูส่วนครึ่งบนจะเป็น Soft touch เพื่อสัมผัสที่อ่อนนุ่มด้วย พวงมาลัยหุ้มหนัง ที่มีปุ่ม Multi-Function เพิ่มความสะดวกในยามขับขี่ โดยด้านซ้ายมีทั้งปุ่มปรับเปลี่ยนหน้าจอข้อมูลการขับขี่, ควบคุมเสียงและโทรศัพท์ได้ ส่วนด้านขวามีระบบ Radar Cruise Control ให้เปิดใช้งานและควบคุมได้ที่ด้านนี้ รวมทั้งการปรับระยะห่างระหว่างรถเรากับรถคันหน้า, ระบบเปิด-ปิดการควบคุมและเตือนรถให้อยู่ในเลน และควบคุมเครื่องเสียงได้อีกด้วย ส่วนหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) แบ่งเป็น 3 โซน โดยซ้ายเป็นแบบเข็ม เอาไว้บอกการทำงานของเครื่องยนต์ว่าอยู่ในส่วนของการใช้กำลังสูง (Power) หรืออยู่ในโหมดประหยัด (ECO) หรือกำลังชาร์จไฟอยู่ (Charge) หรือเครื่องยนต์ดับ ส่วนด้านขวาเอาไว้บอกปริมาณน้ำมันคงเหลือ และความร้อนของเครื่องยนต์ ส่วนตรงกลางเป็นแบบ Digital ขนาด 7 นิ้ว เอาไว้บอกความเร็วหรืออย่างอื่นที่เราต้องการรู้ ผ่านการควบคุมด้วยปุ่มบนพวงมาลัยนั่นเอง

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

กุญแจของ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ใช้เป็นแบบรีโมท พร้อมปุ่ม Push Start ให้ใช้งานได้ง่ายดาย พร้อมระบบ Smart Entry ที่ไม่ต้องควักกุญแจออกมาจากกระเป๋า ก็เข้ารถได้แล้ว และส่วนที่ดีงามก็คือ ในรถอนกประสงค์ SUV คันนี้ ยังมาพร้อมหลังคา Moonroof มาให้อีกด้วย เพิ่มความโปร่งโล่งสบายในยามขับขี่ได้มากขึ้นอีกด้วย

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

ระบบความปลอดภัยบน Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety รถยนต์ใหม่ 2020 คันนี้ ยังมาอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น

  • ถุงลมนิรภัย 7 จุด
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Brake System)
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
  • ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน (Drive Start Control)
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal)
  • กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
  • กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) พร้อมมุมมองแบบ 3D View
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (Lane Tracing Assist)
  • สัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

ข้อมูลน่าจะครบถ้วนกันไปแล้ว เรามาเริ่มออกเดินทางเพื่อรีวิวรถกันเลยดีกว่า โดย Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ถือว่าเป็นรถที่มีขนาดพอดีกับตัวของผมมาก เปิดประตูแล้วสอดตัวเข้าไปในตัวรถเพื่อนั่งขับ มันไม่ต้องย่อหรือเขย่งตัวเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งคนขับเลย ความสูงมันพอดีมาก เข้านั่งได้สะดวกที่สุด (ผมสูง 172 ซม. ตามมาตรฐานชายไทย) ตัวเบาะนั่งก็กำลังพอดี ไม่ถึงกับกรชับ แต่นั่งสบาย ไม่นุ่มจมหรือแข็งจนนั่งนานแล้วปวดหลัง การจัดวางของปุ่มต่าง ๆ เน้นความเรียบง่าย ใช้งานได้สะดวก มีให้กดได้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ปุ่มบนพวงมาลัยก็อยู่ในตำแหน่งที่กดง่าย โดยเฉพาะปุ่มควบคุมระบบ Dynamic Radar Cruise Control ที่ไม่ได้เป็นแบบก้านเหมือนบน Hilux Revo หรือ Fortuner (ดีใจจังโว้ย) เพราะผมไม่ชอบแบบก้านคันโยกมาก รู้สึกว่ายากต่อการใช้งาน แบบนี้ล่ะดีที่สุดแล้ว

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

สิ่งที่ต้องบอกเพิ่มเติมอีกอย่างหนึ่งก็คือ บน Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety จะไม่มีเบรกมือไฟฟ้ามาให้นะครับ แต่จะยังคงใช้ระบบ Manual แบบดึงสลิงแทน ใช้เท้าในการเหยียบ โดยจะอยู่ในตำแหน่งของแป้นคลัทช์บนรถเกียร์ Manual แต่ว่าอยู่สูงกว่า เพื่อป้องกันการเผลอเหยียบ ถ้าใครขับ Toyota Wish อยู่ เบรกมือก็ตำแหน่งเดียวกันล่ะครับ

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

คันเกียร์ของ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ก็เป็นแบบคันโยกขึ้น-ลงปกติ ไม่ได้เป็นแบบเกียร์ขั้นบันได นอกจากตำแหน่งการใช้งานทั่วไปคือ P, R, N, D แล้ว จะมีเพิ่มในส่วนของ B เข้ามาเพิ่มอีกอัน ตำแหน่งนี้ไม่ได้เป็นโหมด Sport หรือการลดการใช้เกียร์แต่อย่างใด แต่เป็นโหมดที่ช่วยดึงรถไว้ให้หนืดมากกว่าเดิม ใช้งานได้ดีช่วงลงเขา ดึงไม่ให้รถลงมาเร็วมาเกินไป และช่วยปั่นไฟให้กลับเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ได้มากขึ้น เร็วขึ้นอีกด้วย ส่วนข้างคันเกียร์ก็มีปุ่มให้เลือกใช้งานอีก 3 ปุ่ม คือปุ่ม Drive Mode ที่เลือกใช้งานได้ทั้ง Eco, Normal และ Power นอกจากนี้ก็มีปุ่มปิดระบบ Traction Control และปุ่ม EV Mode เพื่อบังคับให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น (กรณีที่มีแบตเตอรี่มากพอ)

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

สิ่งที่อยากพูดให้เยอะมากหน่อย คงต้องเป็นเรื่องของหน้าจอขนาด 9 นิ้ว ระบบสัมผัส ที่รองรับการใช้งาน Apple CarPlay แบบเสียบสาย USB และเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วยสัญญาณไร้สาย Bluetooth พร้อมลำโพงอีก 6 ตำแหน่ง (เรื่องเสียงไม่ต้องพูดถึงเลย ธรรมดามาก)  แต่สิ่งที่อยากพูดถึงมากที่สุดก็คือเรื่องของ กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) พร้อมมุมมองแบบ 3D View นั่นเอง นี่คือออพชั่นที่ดีเลิศประเสริฐศรีมีความสุดยอดอย่างมาก เพราะมันคือตัวช่วยที่ทำให้การขับขี่ในเมืองนั้นสะดวกสบายจริงจัง ปกติที่เราเคยเห็นมุมมองรอบคัน ส่วนใหญ่ก็จะเห็นตอนถอยหลังเป็นแบบ Top View ใช่ไหมครับ แต่คันนี้นอกจากจะมีบุมมอง Top View แล้ว ยังมีมุมมองแบบ 3D ที่มีภาพเสมือนจริงของรถให้เราเห็นได้อีกด้วย รวมทั้งตอนเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ก็มีให้เห็นจากมุมด้านข้างด้วยเช่นกัน แต่มันจะตัดภาพไปเมื่อเราขับเกิน 15 กม./ชม. นะครับ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง รวมทั้งเราสามารถเลือกมุมมองจากด้านข้างตัวรถทั้ง 2 ข้างพร้อมกันได้อีกด้วย เป็นตัวช่วยที่ดีมากในยามต้องถอยหลังเข้าซอง จะเห็นได้เลยว่าเราจอดได้ตรงกลางช่องจริงหรือเปล่า อันนี้คะแนนเต็ม 10 ให้ 11 เลย

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety นั้น ต้องบอกเลยครับว่ามันถูกออกแบบมาให้เป็นสไตล์รถครอบครัวจริง ๆ เน้นเนื้อที่โดยารที่กว้างขวางเอาไว้ก่อน มุมมองต่าง ๆ ในตอนขับเลยดูโปร่งโล่งสบาย ไม่ได้มีตำแหน่งตรงไหนที่มาขวางหูขวางตาเกินกว่าปกติ จนทำให้การมองเส้นทางเป็นเรื่องน่ารำคาญ ยิ่งถ้าเปิดเพดานผ้า แล้วให้เห็นหลังคา Moonroof แล้วด้วยนะ จะเพิ่มความโล่งให้มากขึ้นเข้าไปใหญ่ เรื่องแดดร้อนนี่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะแอร์บนรถโตโยต้านั้นเชื่อขนามกินได้เลยว่า เย็นเจี๊ยบ เปิดแปปเดียวก็หนาวแล้ว แถมยังเป็นแอร์แบบแบ่งโซนได้อีกด้วยนะ คนนั่งข้างหนาว ก็ลดแอร์เอาเอง ไม่ต้องมาบ่นกัน

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

การขับขี่บน Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety สำหรับผมแล้วตัวช่วงล่างคือความโดดเด่นมากจริง ๆ เป็นรถที่ขับแล้วรู้สึกสบายอ่างมาก ถนนจะไม่เรียบยังไง รถก็นั่งได้อย่างนุ่มนวล ถึงแม้จะเจอกับคอสะพาน, หลุม, เนินหลังเต่า เราก็วิ่งไปได้อย่างนุ่นมวลจริง ๆ ถึงแม้ว่าด้านหลังจะใช้รูปแบบของช่วงล่างเป็นคานทอร์ชั่นบีมก็ตาม แต่มันก็ทำหน้าที่ได้เกินกว่าที่เรามองเห็นจริง ๆ การทรงตัว เข้าโค้งก็ทำได้ดีตามไปด้วย อาจจะไม่ถึงกับหนึบแน่นปั้กในโค้ง แต่ถ้ามองเทียบกันในกลุ่ม SUV ก็ถือว่ารถอเนกประสงค์คันนี้ ทำได้ดีเกาะกลุ่มบนอย่างแน่นอน

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ระบบ Hybrid ที่ตั้งจูนให้เน้นเรื่องประหยัดเป็นสำคัญ ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เลือกใช้งานเป็นโหมด Eco รถจะวิ่งได้อืดถึงอืดที่สุด อืดประมาณคุณขับรถ Eco Car ในยุคเปิดตัวรุ่นแรก ๆ แล้วบรรทุกเพื่อไป 4 คน อืดจนแอบคิดไม่ได้เลยว่า เฮ้ย รถมันเป็นอะไรวะ ดังนั้นโหมดนี้ถ้าใครต้องการความประหยัดสูงสุด ไม่รีบร้อน ปล่อยไหลไปเรื่อย ก็ใช้ได้เลย  แต่สำหรับผมมันไม่ใช่เลย ช้าเกิน แต่ถ้าขยับขึ้นมาที่โหมด Normal เออว่ะ ดีขึ้นเลย รถจะมีแรงตอบสนองที่ดีมากกว่าเดิมอย่างเห็นความแตกต่างได้ กดคันเร่งแล้วรถออกตัวได้รวดเร็วกว่าเดิม แต่เมื่อเปลี่ยนมาโหมด Power เมื่อไหร่ รถจะงัดเอาพลังทั้งหมดมากองรอไว้ รอแค่เท้าเราขยับไปกดคันเร่งเท่านั้น ก็ปลดปล่อยพลังไปสู่ล้อได้เลย แต่อย่าไปคาดหวังว่ามันจะพุ่งหน้าหงายอะไรขนาดนั้นนะ เพราะสุดท้ายเมื่อ Combine พละกำลังออกมาแล้ว ก็มีแค่ 122 แรงม้า แรงบิดก็คงไม่เยอะมากมายอะไร พอจะพารถออกตัวได้เร็วประมาณหนึ่งเท่านั้นเอง สำหรับผม ผมว่าโหมด Normal คือกำลังดีที่สุดแล้ว ตัวของคันเร่งไม่ได้ตอบสนองไวเกินไป จนทำให้เด็กน้อยที่อาจจะเผลอยืนอยู่บนเบาะหงายท้องลงไปได้ (ส่วนโหมด Eco ปล่อยไว้งั้นแหล่ะ ช้าเกิน)

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ใส่พวงมาลัยแบบพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) มาให้ นี่คืออีกข้อดีของการใช้งานบนรถคันนี้เลย เพราะน้ำหนักมันกำลังดีมาก ไม่หนักหรือเบาเกินไป ใช้งานได้ง่ายทั้งช่วงความเร็วต่ำยันความเร็วสูง ไม่ถึงกับแม่นยำเป๊ะ แต่ดีขึ้นกว่าโตโยต้าในรุ่นก่อนใช้งานโครงสร้าง TNGA อย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญเมื่อทำงานร่วมกับระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) กับระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (Lane Tracing Assist) มันจะดึงแบบเนียนมากกว่าของ Toyota Hilux Revo Rocco และ Toyota Fortuner Legender ที่ยังใช้งานเป็นพวงมาลัยแบบไฮดรอลิกอยู่ เลยดึงแบบไม่เกรงใจคนขับมากไปหน่อย (ลองกลับไปอ่านรีวิวของทั้ง Toyota Hilux Revo Rocco และ Toyota Fortuner Legender ได้เลย)

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

ระบบที่ผมชอบมากบน Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ก็เฉกเช่นเดียวกับบน Toyota Hilux Revo Rocco เลยก็คือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control ที่ทำงานได้เนียนกริ๊บ การเร่งเพื่อทำความเร็วเพิ่มไปจนถึงจุดที่เราตั้งเอาไว้ก็ทำได้แบบค่อย ๆ ขึ้น ไม่เร่งแบบกดมิดเพื่อให้ถึงให้เร็วที่สุดเหมือนบางรุ่นในตลาด และเมื่อมีรถแทรกเข้ามาระหว่างกลางของรถเรากับรถคันหน้า มันก็จะทำการลดกำลังเครื่องยนต์ก่อน แล้วค่อยแตะเบรกเบา ๆ กรณีที่รถยังอยู่ในระยะห่างที่ไม่มากพอ แบบประมาณเดียวกับที่เราแตะเบรกเลย ชอบมาก ไม่สร้างความตกใจแก่ผู้โดยสารเลย

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

สิ่งที่ผมรู้สึกไม่ถูกใจเท่าไหร่บน Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ก็คือเรื่องของความคล่องตัวน้อยไปหน่อย คันมันดูเทะทะอุ้ยอ้ายไปหน่อย ดังนั้นการเข้าช่อง มุดช่องการจราจรต่าง ภายในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรที่มีรถวิ่งกันขวักไขว่ มันดูไม่ค่อยคลล่องสักเท่าไหร่ ขับแล้วไม่มั่นใจมากนักที่จะพุ่งมุดเข้าแทรกช่อง แต่มันก็ต้องย้ำอีกครั้งว่ามันคือรถที่ออกแบบมาให้ใช้ในรูปแบบของครอบครัว คุณก็อย่าไปคาดหวังมุดช่องได้คล่องตัวเลย เอาเป็นว่ารถอเนกประสงค์ SUV คันนี้ เก็บเสียงได้ดีมากพอตัวเลย ใช้ความเร็วสูงก็ยังมีเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาได้น้อยมาก อันนี้โดนใจ

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

อีกอย่างหนึ่งที่รู้สึกไม่ชอบก็คือ ในเรื่องของเสียงเครื่องยนต์บน Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ในช่วงที่เราจอดรถติดการจราจรอยู่ ตอนที่รถมีไฟฟ้าอยู่ มันก็เงียบดีแหล่ะ แต่พอไฟหมดเมื่อไหร่ เครื่องยนต์ติดขึ้นมา เฮ้ย ทำไมเสียงมันดังจังหว่า ประมาณว่าเครื่องยนต์ไม่ได้ติดในรอบเดินเบา แต่เหมือนมีเท้าจากดินแดนอันลึกลับแอบมากดคันเร่งค้างไว้จนรอบวิ่งไปเกิน 1,000 รอบ/นาที รำคาญหูชะมัด เอาวะ แลกมากับการประหยัดน้ำมัน ทน ๆ กันไปละกัน

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

เรามาดูอัตราเร่ง 0-100 บน  Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety กันดีกว่า โดยรอบนี้ผมก็ยังคงใช้แอพ iBolid บน iPhone 11 ในการจับความเร็วเช่นเคย แต่จะทดสอบในโหมด Power อย่างเดียว ทดสอบไปรวม 3 รอบ ได้อัตราออกมาดังนี้ครับ

รอบที่ 1 - 12.12 วินาที

รอบที่ 1 - 11.79 วินาที

รอบที่ 1 - 13.07 วินาที

อัตราเฉลี่ย - 12.32 วินาที

ต้องบอกว่า รถยนต์ในระบบ Hybrid นั้น มันจะมีตัวช่วยเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าในตอนออกตัว เลยทำให้ตอนต้นมันเหมือนจะเริ่มได้ดี แต่พอพลังของมอเตอร์เริ่มหมดลง แน่นอนว่าความเร็วก็เริ่มเหี่ยวลง น่าจะช่วงประมาณพ้น 60 กม./ชม.ขึ้นไป แล้วก้ค่อยไต่ไปจนถึง 100 ได้ และอัตรา 12 วิกว่า ๆ มันก็ไม่ได้แย่เลยครับ ถ้ามองว่ามันคือรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ที่มีขนาดตัวและน้ำหนักเยอะกว่ารถ Sedan ทั่วไป เท่านี้ก็ถือว่าเจ๋งแล้วครับ

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

ขยับมาเรื่องอัตราการประหยัดน้ำมันบ้าง รอบนี้เริ่มด้วยการขับขี่ในเมืองตามสภาพเดิมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีทั้งรถติด, รถวิ่งได้เรื่อย ๆ, วิ่งได้ยาว ๆ และมีจอบ้างในบางกรณี ระยะทางรวมประมาณ 311 กิโลเมตร ได้อัตราการประหยัดออกมาที่ 18.0 กิโลเมตร/ลิตร ถือว่าว้างเลยครับ เพราะเอาจริง ขนาดเคยเทสรถ ECO Car ยังได้ประมาณนี้เลย (บางคันไม่ถึงด้วยซ้ำ) เชื่อใจได้เลยว่าระบบ Hybrid ของโตโยต้านั้น ประหยัดจริง ส่วนการทดสอบวิ่งแบบนอกเมืองนั้น จัดการวิ่งในเส้นทางตัดใหม่พัฒนาการ-ร่มเกล้า วนไป วนมา ใช้ความเร็วช่วงประมาณ 100-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตามจังหวะของรถ ระยะทางรวมประมาณ 90 กิโลเมตร ได้อัตราประหยัดอยู่ที่ 23.6 กิโลเมตร/ลิตร ก็ถือเป็นอัตราที่ดีมากเช่นกัน ดังนั้นถ้าคุณไม่ใช่คนรีบ และชอบความประหยัด Toyota Corolla Cross Hybrid ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน ก็น่าจะตรงกับความต้องการของคุณอย่างมากเลยครับ

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

สรุปรวมการรีวิวรถยนต์ใหม่ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety ในระยะเวลา 5 วัน ใช้งานไปร่วม 500 กิโลเมตร สรุปเอาไว้ได้ดังนี้ครับ

ชอบ

  • ช่วงล่างคือความดีงาม นุ่มนวล นั่งสบาย เหมาะสำหรับพ่อบ้านที่พาครอบครัวเดินทางไปเที่ยวจริง ๆ
  • ความประหยัดคือดีงาม ในเมืองได้ 18 กิโลเมตร/ลิตร ทั้งที่ไม่ได้เบาเท้า แถมมีทดสอบอัตราเร่งเป็นช่วง ๆ อีก
  • กล้อง 360 องศาแบบ 3D นี่คือความแปลกใหม่และสะดวกมากกว่า ในการดูรถรอบคัน เปิดไฟเลี้ยวก็เห็นรอบรถได้แล้ว ดีสุด

ไม่ชอบ

  • เสียงเครื่องติดตอนจอด จะดังไปไหน
  • โหมด ECO มันอืดไปนิด อืดชนิดที่คิดเองเลยว่า “รถมีปัญหาป่าววะ”

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety เป็นตัวบนสุด ตั้งราคาจำหน่ายเอาไว้ที่ 1,199,000 บาท แต่ยังมีรุ่นอื่นอีก ทั้ง

  • Toyota Corolla Cross 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท (โปรโมชั่นพิเศษ 959,000 บาท ถึง 30 กันยายนนี้)
  • Toyota Corolla Cross Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท
  • Toyota Corolla Cross Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท

ใครที่ต้องการรถขนาดใหญ่ประมาณหนึ่ง ประหยัดน้ำมัน ไม่เร่งร้อน ผมว่านี่คือรถที่ตอบโจทย์ตุณได้อย่างดี ส่วนเรื่องดีไซน์ ก็แล้วแต่เลยครับ ใครจะว่าเหมือนปลากะโห้แล้วไม่ซื้อก็ว่าไป แต่ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่ถ้าได้หน้าตามแนวทางแบบ Altis, Camry, Fortuner ก็คงจะดีไม่น้อยเลยครับ

Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety

ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ