ยอดขาย Tesla ในแคลิฟอร์เนียร่วงต่อเนื่อง 7 ไตรมาสติด คู่แข่ง EV แย่งส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น

Tesla กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญของบริษัทมาโดยตลอด โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่อยู่ที่ 41,138 คัน ลดลง 21.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานจากสมาคมผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ใหม่แห่งแคลิฟอร์เนีย (California New Car Dealers Association: CNCDA)

นับเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกันที่ยอดขายของ Tesla ลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มหันไปเลือกใช้รถยนต์จากผู้ผลิตรายอื่นมากขึ้น โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผล เช่น บทบาททางการเมืองของ Elon Musk รวมถึงการเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาในการก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ชื่อ "America Party"

แม้ว่า Tesla Model Y และ Model 3 ยังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมียอดจดทะเบียนใหม่ในครึ่งปีแรกของปี 2025 อยู่ที่ 44,112 คัน และ 31,394 คัน ตามลำดับ แต่ก็ไม่สามารถต้านกระแสการลดลงของยอดขายรวมได้ โดยยอดขายสะสมของ Tesla ในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 74,227 คัน ลดลง 18.3% จากปีที่แล้ว

ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นเริ่มเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดได้อย่างต่อเนื่อง Hyundai Ioniq 5 มียอดจดทะเบียน 7,498 คันในช่วงเวลาเดียวกัน ขึ้นแท่นรถ EV อันดับ 3 ของรัฐ รองจาก Tesla ขณะที่ Honda Prologue, Ford Mustang Mach-E และ BMW i4 ก็มียอดขายใกล้เคียงกัน สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอย่าง Toyota และ Honda ยังคงมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Toyota มียอดจดทะเบียนในไตรมาส 2 อยู่ที่ 86,683 คัน เพิ่มขึ้น 9.8% จากปีก่อน ขณะที่ Honda เพิ่มขึ้น 9.3% มาอยู่ที่ 54,278 คัน

ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น Tesla อาจต้องเร่งเปิดตัว Model Y รุ่นราคาประหยัดที่มีข่าวลือมานาน เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อที่ใส่ใจเรื่องราคา โดยเฉพาะก่อนที่เครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลกลางมูลค่า 7,500 ดอลลาร์จะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายนนี้

ที่มา Carscoops