Full Review : Honda HR-V 1.8 EL ...เท่ห์หรูผสาน ความเป็นหนึ่งที่ลงตัว

  • โดย : Autodeft
  • 13 ส.ค. 58 00:00
  • 49,687 อ่าน

พบบทดสอบที่สุดของรถยนต์กระแสนิยมที่ไม่ว่าใครก็พูดถึง Honda HR-V 1.8 EL เมื่อเรามีโอกาสจัดหนักขับเต็มสมรรถนะ พร้อมลองพลังงานทางเลือกมันจะออกมาดีอย่างที่คาดหรือไม่

 

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

 

ในโลกใบนี้จะมีรถยนต์สักกี่คันที่คนทั่วไปต่างยอมรับว่า รถยนต์รุ่นดังกล่าวนั้นมีความลงตัวในการออกแบบที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวในทุกด้าน ไม่ว่าจะ ด้านการตลาด , ด้านการวิศวกรรม และ ด้านการออกแบบ นี่ยังไม่นับความอรรถประโยชน์ในการใช้งาน ที่ให้มาอย่างครบครัน

แต่ทว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์ที่ใกล้เข้าขั้นของคำว่าสมบูรณ์แบบนั้นกลับมีจริงในตลาดรถยนต์ทั่วโลก สื่อสารออกมาในนามรถยนต์ “อเนกประสงค์” ซึ่งการเปลี่ยนแปลงหนึ่งคือการที่ค่ายรถยนต์หลายเข้าต่างพยายามแนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ในระดับซับคอมแพ็คคาร์ หรือ  B  Segment SUV   ที่มีขนาดย่อมลงมา หากยังตอบโจทย์ได้ทั้งการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง ตลอดเส้นทางการลุยบ้างพอหอมปากหอมคอ เรียกความสนุกสนานในวันหยุดสุดสัปดาห์ให้มีสีสัน

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

ตั้งแต่เปิดตัววางจำหน่ายเป็นต้นมา คนทั่วโลกต่างยอมรับว่า  “Honda HR-V” เป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมากมายในการแนะนำตัวเอง เป็นรถยนต์ Global Model   รุ่นที่ห้าต่อจากรถยนต์   Honda  Accord , Honda  Civic ,  Honda  Jazz/ Fit และ   Honda  CR-V  ด้วยการเปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการในนามรถยนต์   "Honda  Vezel"  ในประเทศญี่ปุ่นก่อนที่จะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดรถยนต์โลก ด้วยชื่อ   Honda  HR-V และเมื่อมาถึงเมืองไทย มันก็กลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาว ที่ทำเอา ฮอนด้า มือเป็นระวิงเมื่อยอดขายเข้ามาอย่างถล่มทลายจนช่วงแรกส่งรถกันไม่ทัน  กลายเป็นรถยนต์ที่ขายดีจนไม่ต้องโปรโมทหรือใช้เครื่องมือทางการตลาดให้มากมาย เพราะรถคันนี้ขายตัวเองอยู่แล้ว

 

 ...สารภาพตามตรงว่า  Honda  HR-V   เป็นรถยนต์คันแรกในปีนี้ที่เราตัดสินใจนำมาทดสอบประเดิมการก้าวเข้าสู่ปีล่าฟ้าใหม่  พ.ศ. 2558  แต่จากสถานการณ์ส่งมอบรถยนต์ของ ฮอนด้า ประกอบกับการปิดรับจองรถบางรุ่น โดยเฉพาะ  Honda  HR-V  1.8  EL   เวอร์ชั่นท๊อปสุดของไลน์การผลิต ที่ทางฮอนด้าให้เรามาทดสอบกัน ทำให้การตัดสินใจในการทำงานรีวิวชิ้นนี้ถูกพับเก็บไว้ก่อน และรอเวลาทุกอย่างลงตัวประจวบเหมาะ จึงนำออกมาพูดคุยกัน

 

ไม่บ่อยนักทีเราจะค้นพบว่ารถยนต์สักคันจะตรงใจลงตัวในทุกด้านแต่  Honda  HR-V   เป็นรถยนต์คันดังกล่าวที่ทำให้ทุกอย่างสามารถไปด้วยกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความประทับใจตั้งแต่ที่มีโอกาสไปลองสัมผัสมันครั้งแรก เมื่อครั้นทดสอบกลุ่มรถยนต์คันนี้  Honda HR-V   ก็ทำให้เรารู้สึกค่อนข้างประทับใจในหลายๆ ด้าน แต่ท้ายที่สุด ทุกคำตอบการใช้งานกำลังจะถูกถ่ายทอดต่อจากนี้ เมื่อเรานำ   Honda  HR-V 1.8 EL  มาใช้งานจริงๆ บนถนนซึ่ง   Honda  HR-V   ถูกหล่อหลอมขึ้นมาตอบโจทย์ในการใช้งาน

 

หลายคนคิดว่า   Honda  HR-V   เป็นรถยนต์ยุคใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นมา ทั้งที่ความจริงแล้วชื่อเสียงของ   Honda  HR-V   นั้น เคยมีปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ ระดับโลกเพียงแต่อาจจะไม่มาถึงประเทศไทย เนื่องจากรถยนต์   Honda  HR-V   โฉมแรกที่เปิดตัววางจำหน่ายเป็นครั้งแรกที่ถูกเลือกให้ทำตลาดในญี่ปุ่นและบางประเทศในแถบอาเซียน แต่กระนั้นในความเหมือนที่แตกต่างระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ ก็ตั้งต้นด้วยการวางแนวทางให้เจ้าอเนกประสงค์คันนี้พัฒนาจากการใช้พื้นฐานรถยนต์นั่งขนาดเล็ก โดยในรุ่นแรกของ  Honda  HR-V  อาศัยพื้นฐานจากรถยนต์  Honda Logo (ยุคนั้นยังไม่มีรถยนต์   Honda Jazz)  เจ้ารถยนต์ซิตี้คาร์เครื่องยนต์  1.3  ลิตร ซึ่งถือเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กในช่วงยุคปี  1996-2001 ที่สร้างไอเดียก่อกำเนิดตำนานปฐมบทเป็นรถยนต์   Honda Fit/ Honda  Jazz   ในตลาดโลก

การใช้พื้นฐานจากรถยนต์   Honda Logo   ของ  Honda HR-V   ในรุ่นแรก ได้วางแนวทางให้มันเป็นรถยนต์เปี่ยมด้วยความสนุกสนาน และดิบดุ หรือ  Wild and Joyful  (J-WJ)  โดยต้นแบบของรถยนต์  Honda HR-V   รุ่นแรกเปิดตัวออกมาเมื่อปี   1997  ในงาน   Tokyo  Motor Show    สื่อให้เห็นถึงการออกแบบรถยนต์ที่มีความลงตัวในการใช้งานแบบอเนกประสงค์และยังสามารถพอ ที่จะขับใช้งานเพื่อการเดินทางต่างจังหวัดได้

ท้ายที่สุด   Honda  HR-V   รุ่นแรกก็ส่งสู่ตัวแทนจำหน่ายฮอนด้าในญี่ปุ่น ในปี   1998   มันมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6  ลิตร แคมเดี่ยว และระบบเกียร์   CVT   แต่ก็ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่รับมาจาก  Honda  CR-V   ให้เป็นทางเลือก ก่อนที่จะมีการปรับการออกแบบในช่วงปี 2002  เพื่อเตรียมสั่งลาตลาด และท้ายสุดในปี   2003   รถยนต์รุ่นนี้ก็หยุดการวางจำหน่ายและไม่มีการเปิดตัวออกมาวางจำหน่ายอีก

แม้ว่าจะเป็นเจนเนอร์เรชั่นเดียวที่เข้ามาทำตลาดรถยนต์ตามแนวคิดของฮอนด้าที่มองว่า พวกเขาจะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้ก็ต้องการรถยนต์ที่หลากหลาย ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์นั่งประเภทรถเก๋ง ที่พวกเขาทำตลาดมายาวนานเท่านั้น

[IMAGE1] 

การห่างหายไปยาวนานกว่า 11  ไม่มีใครคาดคิดว่าในรั้วของ   Honda   กำลังคิดจะนำรถยนต์   Honda  HR-V   กลับมาอีกครั้ง ลังจากที่ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์เริ่มเฟื่องฟูมากขึ้นจากความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลก ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่มีขนาดเล็กมากกว่าในยุคเมื่อครั้นปลายยุค   90   เรื่องดังกล่าวถูกยืนยัน จากการวางจำหน่ายรถยนต์   Nissan juke  ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ตลอดจนค่ายรถยนต์หลายราย อย่าง  Ford   ก็มีการออกรถยนต์นั่งอเนกประสงค์เล็ก   Ford Ecosport   มาตอบตลาดและก็ได้รับความนิยมเช่นกัน ไม่มากก็น้อย ทำให้   Honda   เอง ถึงเวลาที่จะปัดฝุ่นรถยนต์  Honda  HR-V   เข้ามาทำตลาดบ้าง

การเปิดตัวครั้งแรกในนาม   Honda Vezel   ที่ญี่ปุ่น จวบจนมาเป็น   Honda  HR-V   รถยนต์อเนกประสงค์คันนี้เป็นรถยนต์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยแนวคิดที่วางเอาไว้จากทีมวิศวกรและนักออกแบบว่ามันคือ  Urban SUV Concept   หรือรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับคนเมือง ซึ่งแค่ฟังโจทย์ก็พอค่อนข้างจะลงตัวต่อความต้องการของตลาดรถยนต์ในปัจจุบันแล้ว จวบจนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน  Tokyo  Motor Show   ในปี   2013   ก็ทำให้รถยนต์รุ่นนี้กลายเป็นที่สนใจ ของคนทั่วโลก

 

ผมยังจำได้ดีย้อนไปเมื่อครั้นไปทดสอบกลุ่มรถยนต์  Honda HR-V   ที่เขาใหญ่ว่า ทางทีมวิศวกร ได้น้ำนักย้ำหนาว่า   Honda  HR-V   ในมุมมองของทางฮอนด้า มันถูกวางไว้ให้เป็นรถยนต์ในฝัน หรือ   Dream  Car   ซึ่งรถในฝันหมายถึงรถยนต์ที่ผสมผสานอย่างลงตัวในทุกด้าน และแถมยังมีราคาจำหน่ายไม่แพงเกินจนที่จะจับจองเป็นเจ้าของ เรียกว่าทุกอย่างลงตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนส่วนตัวแทบไม่แปลกใจเลยที่ทาง  Honda  ใช้คำสื่อสารการตลาดในรถยนต์คันนี้ว่า  “Cross at it best”

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

การผสานอย่างลงตัวทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่การออกแบบ และในการพบหน้าอีกครั้ง   Honda HR-V  1.8 EL   ทักทายเราด้วยความรู้สึกของความเป็นสปอร์ตในรถยนต์อเนกประสงค์ดูต่างจากคู่แข่ง ด้วยความพยายามในการผสมผสานความเป็นพรีเมี่ยมเข้ามาในความรู้สึก ช่วงครึ่งบนของตัวรถนั้นดูมีความสปอร์ต ส่วนครึ่งล่างต้องคงความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ดั้งเดิม กล่าวคือรถต้องดูแข็งแกร่ง 

ทำให้   Honda   HR-V  ใหม่ ถูกออกแบบ ภายใต้แนวคิด  Dynamic Cross Solid   ซึ่งเป็นการผสมผสานการออกแบบสองอย่างที่แตกต่างกันเข้ามาไว้ในรถยนต์คันเดียว ซึ่งมีแนวทางที่ยังคงความเป็นตัวตนของปัจเจกการออกแบบดั้งเดิมไว้อย่างชัดเจน

ในขณะที่ ส่วนผสมหลักถูกใส่ลงไป   Honda   ก็ไม่ลืมที่จะให้เอกลักษณ์ใหม่ของค่าย ที่เรียกว่า  Exciting  H  ในการออกแบบ จัดเต็มโฉมลักษณ์ของความสปอร์ต  ตั้งแต่ด้านหน้าที่โดดเด่นสะดุดตาในการออกแบบด้วยกระจังหน้า ที่มองแล้วมีความคล้ายเพชรที่ถูกเจียระไนวางไว้บนแหวน ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้  Honda   เลือกใช้คำว่า   Honda  Vezel   ในญี่ปุ่น ที่มีความหมายมายจากคำว่า  “Bezel”   อันหมายถึง ฐานสำหรับรองรับเพชรพลอยบนแหวน และท้ายสุดในความเป็นรถยนต์ อันหมายถึงพาหนะ .. คำว่า  “ Vehicle”  จึงถูกเติมเข้ามาและผสมผสานเป็นคำว่า “Vezel” ในท้ายที่สุด

การออกแบบกระจังหน้าอันโดดเด่นถูกรับเข้ากับไฟหน้าแบบ LED ตามแนวคิดล่าสุด   Solid Wing face  ที่หยิบยืมสไตล์ในการออกแบบมาจากรุ่นใหญ่ รวมถึงในโคมยังมีไฟส่องสว่างวิ่งกลางวันแบบ  LED   เข้ามาตอบโจทย์ในการขับขี่ ลงตัวเส้นสายการออกแบบที่ยังดูมีความสปอร์ตจากด้านหน้าจรดบั้นท้าย ซึ่งยังออกแบบซ่อนมือจับประตูหลัง ให้ความรู้สึกมีความเป็นรถสปอร์ตคูเป้ แล้วท้ายสุดลงตัวกับไฟท้าย  LED   ซึ่งใน Honda  1.8  EL  จะมีความลงตัวมากกว่าด้วยไฟท้าย LED แบบ  Tube Type   ส่องสไตล์ความสปอร์ตมากกว่ารุ่นธรรมดาที่ยังคงใช้ไฟท้ายแบบ LED   เม็ดๆ ดูแล้วเลอค่ามากกว่าอย่างชัดเจน ทว่าสิ่งที่อยากจะฝากปรับปรุงเปลี่ยนแปลง คือชุดไฟท้ายที่เป็นลักษณะครึ่งลูกศรนี้กลับไม่มีความลงตัว เมื่อเทียบเรือนร่างที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี จนน่าเสียดายที่ฮอนด้ามาตกม้าตายเอาในตอนท้าย

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

นอกจากนี้ในรุ่นท๊อปสุดของ   Honda  HR-V 1.8  EL ยังเสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ตจัดเต็มด้วยการให้ชุดหลังคา  Panoramic Roof   เข้ามาตอบโจทย์ จบการออกแบบภายนอก ด้วยการให้ล้ออัลลอยขนาด 17  นิ้ว มาพร้อมยางขนาด 215/45/R17   โดยรุ่นท๊อปเพิ่มเสน่ห์ด้วยลายสปอร์ต ปัดเงาและรมดำ ดูมีความลงตัวมากกว่ารุ่นเริ่มต้นหรือรุ่นกลาง

และท้ายสุดทั้งหมดที่กล่าวมาก  Honda HR-V   เปิดตัวตนในเรือนร่างที่มีความยาว 4,294  มม.(มิลลิเมตร) กว้าง 1,772   มม. และสูง 1,605   มม.  จัดมาพร้อมฐานล้อยาว   2,610   มม.   และด้วยความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์มันจะมีระยะความสูงใต้ท้องรถถึง   185  มม.

หากเทียบกับรถยนต์รุ่นต่างๆของ   Honda   จะเห็นได้ชัดเจนว่า   Honda  HR-V   มีความยาวสั้นกว่า  Honda  Civic  รุ่นปัจจุบัน   50  มม. และยังกว้างกว่า   17   มม.  รวมถึงยังสูงกว่า 171  มม. 

แถมเมื่อเทียบกับพี่ชายใหญ่  Honda  CR-V มันมีขนาดที่ย่อมกว่าไม่มากมายนัก ด้วยความยาวที่แตกต่างกันเพียง  -288 มม. หรือไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด และมีความกว้างต่างกันเพียง -48 มม.  และมีความสูงแตกต่างกันเพียง  -80  มม. แต่ที่คุณจะแปลกใจสุดคือ   Honda  HR-V   และ Honda CR-V   มีระยะฐานล้อ ต่างกันเพียง   10  มม.

 และเมื่อนับว่า Honda  HR-V   ถูกปลุกปั้นขึ้นมาจากพื้นฐานของรถยนต์   Honda Jazz   เจ้ารถยนต์   Honda   HR-V   ก็ถูกตีขยายมิติตัวถังออกมากอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความยาวที่ถูกปรับขยายออกมามากกว่า +339  มม. แล้วกว้างกว่า +77  มม. ตลอดจนยังมีความสูงมากกว่า 80  มม.

 

 

หากมองตามการวางตัวตนของ รถยนต์อเนกประสงค์   Honda  HR-V   ใหม่   เจ้ารถคันนี้จะมีขนาดเทียบเท่ารถยนต์คอมแพ็คคาร์หนึ่งคัน ทำให้เมื่อคุณเปิดประตูเข้าสู่ภายในห้องโดยสาร เจ้าอเนกประสงค์คันนี้ต้อนรับคุณด้วยความโอ่โถงในระดับที่น่าพอใจจนจะลืมไปเลยว่านี่คือรถยนต์ที่มีพื้นฐานจากรถยนต์ซิตี้คาร์ยอดนิยมที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี

การให้กุญแจแบบแตะแล้วเปิด  Honda  Smart Key system  ช่วยอำนวยความสะดวกตั้งแต่แรกสัมผัส แต่อย่าแปลกใจที่คุณจะรู้สึกว่าอะไร...ของ ..มัน....ตั้งแต่แรก เพราะกุญแจรีโมทของฮอนด้า นี่เป็นการแตะจริงๆ คุณแค่เอือมมือไปยังมือจับ รถก็จะปลดล๊อคให้คุณทันที ..ผิดกับหลายยี่ห้อที่ยังต้องกดสัมผัสกันก่อนจึงจะปลดล๊อค

ภายในห้องโดยสาร   Honda  HR-V   ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดที่แตกต่างจากรถยนต์  Honda   ด้วยทีมนักออกแบบต้องการให้มันเป็นรถยนต์ที่ผสมผสานความลงตัว ในการใช้งานทุกอย่างหยิบจับง่าย ภายใต้แนวคิด  Expansion Cockpit

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

หากมองที่คอนโซลหน้า จะค้นพบว่าการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ต่างของ   Honda  HR-V   เน้นในการอำนวยความสะดวกต่อผู้ขับขี่สูงสุด ทุกอย่างจัดวางไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานในระหว่างการขับขี่อย่างลงตัว เริ่มจากพวงมาลัยสีดำสามก้านหุ้มหนังที่มีความลงตัวบ่งบอกความเป็นพรีเมี่ยม บนพวงมาลัยมีสวิทช์เครื่องเสียง ระบบ Cruise Control   ให้มาพร้อมสรรพ เหมาะสมแก่การเดินทาง ด้านขนาดวงพวงมาลัยก็พอเหมาะพอดี ไม่ใหญ่ไปหรือเล็กไปเกินงาม สามารถปรับระดับได้  4  ทิศทาง

ตรงหน้าคนขับเป็นหน้าปัดเรืองแสง พร้อมวัดรอบ และวัดความเร็ว ตลอดจนหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ รวมถึงยังมีหน้าจอแสดงข้อมูลต่างๆ และแน่นอนผู้ช่วยสอนให้คุณขับประหยัด   Eco Coaching   ถูกจัดมาพร้อม แสดงแสงสีบอกสถานะการขับขี่ของคุณ ว่าประหยัดหรือไม่ ในระหว่างการเดินทาง

ทว่าพอเอารถขับยามค่ำคืนอยากจะกราบเรียนฮอนด้าเหลือเกินว่า เจ้ามาตรวัดแบบสามมิติที่ให้มาดูดีมีเสน่ห์ในยามขับขี่กลางวันก็จริงอยู่ แต่ตกกลางคืนเมื่อบอกเลยว่าพาลปวดตาและมึนหัวบรรลัย ด้วยหน้าจอตรงกลางที่มีขีดๆ เป็นเหมือนภาพลวงตาสามมิติตรงหน้าคุณตลอดเวลา มันสอดส่ายไปมา ซึ่งคุณอาจจะไม่สบายใจนักเมื่อมองถนนแล้วมามองที่หน้าปัดเจ้า   Honda HR-V ซึ่งหลายคนทำประจำ

เบาะนั่งคู่หน้าทำออกมาให้นั่งสบายแม้กับคนตั้งใหญ่ก็ยังนั่งแบบไม่รู้สึกว่าตัวเบาะเล็ก ด้วยที่รองนั่งค่อนข้างนุ่ม แต่พนักผิงหลังดังออกมาแข็งๆ เล็กน้อย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์รับได้ ทุกอย่างปรับด้วยระบบอัตโนมือทั้งหมด เปลี่ยนความรู้สึกให้ดูสมถะในการใช้งานอยู่บ้าง

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

เมื่อกวาดสายตาไปรอบๆ จะพบว่า  Honda  HR-V  ให้ความหรูหราใช่เล่น ไม่ว่าจะการออกแบบภายในห้องโดยสารขอบคิ้วโครเมียม ที่ช่องแอร์ รวมถึงการเบาะหนังเองก็ตามที ไปจนถึงการตกแต่งด้วยวัสดุพลาสติกสีดำเงา  Piano Black   แลดูมีค่ามีราคามากขึ้น และท้ายที่สุดขาดไม่ได้กับระบบเครื่องเสียง   Advance Touch ทำงานผ่านหน้าจอ  7  นิ้ว ให้ความรู้สึกทันสมัย ยิ่งเมื่อดูคู่กับระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ยิ่งเห็นความลงตัว ในการออกแบบของ   Honda HR-V  

แม้ว่าจะมีความลงตัวหลายอย่างในรถยนต์คันนี้ครบครัน แต่ก็ดูเหมือนว่า  Honda  จะกระเบียดกระเสียนบางออพชั่นเพื่อให้มันต่างจากพี่ใหญ่  Honda CR-V   ใหม่   อย่างเช่นรถราคานี้ด้วยตัวตนของรถยนต์อเนกประสงค์ก็น่าจะให้เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับไฟฟ้ามาได้แล้ว อย่างน้อยในตำแหน่งคนขับก็ยังดี

รวมถึงเบาะนั่งตอนหลังที่มีตำแหน่งการจัดวางท่านั่งเป็นอย่างดี แต่เรากลับยังคงยืนยันความรู้สึกว่าเบาะนั่งของรถยนต์   Honda  HR-V   ตอนหลังขาดศาสตร์และศิลป์ในการออกแบบ มันดูเหมือนเป็นการทำงานที่เอาง่ายเข้าว่า เพราะรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้เอาเข้าจริงการใช้งานผู้โดยสารตอนหลังก็คงไม่บ่อยมากมาย หากแต่เราเห็นว่าอย่างน้อยที่สุดแล้วทางฮอนด้าก็น่าจะทำทรงเบาะรองรับกระชับผู้โดยสารมากกว่านี้ เพราะใน  Honda  HR-V  ถ้าคุณพ่อกำลังเมามันส์ในโค้ง รับรองว่า คุณลูกที่นั่งตอนหลังกระเด็นกระดอนอย่างง่ายดาย หากพวกเขาไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งก็เป็นวิสัยของคนนั่งตอนหลังอยู่แล้ว

 

  ตอบโจทย์คนเมือง..อเนกประสงค์คันนี้ที่ลงตัว

ใต้ฝากระโปรง Honda HR-V 1.8  EL   มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ   4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.8  ลิตร  ให้กำลังสูงสุด   141   แรงม้า สูงสุดที่  6,500 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุดได้มากกกว่า  172   นิวตันเมตร สูงสุดที่  4,300   รอบต่อนาที ส่งกำลังลงชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ   CVT (Continuous Variable  Transmission) ให้อัตราทด 2.526-0.408  แถมยังมีระบบช่วยขับขี่  Shift Control of Cornering Gravity  และ  G  Design Shifting  ส่งกำลังลงชุดเฟืองท้ายที่มาพร้อมอัตราทดจัดจ้านมากถึง 4.992  

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

จะว่าไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัส   Honda HR-V   ให้ความประทับใจกับเราในเรื่องของอัตราเร่งที่เร้าใจในการขับขี่ แม้ว่าการทดสอบในงวดนั้นจะเป็นเพียงถนนบทวิ่งในช่วงเขาใหญ่ไปยังเขาแผงม้าแล้ววนกลับสั้นๆ แต่มันก็ประทบใจในความรู้สึก

งวดนี้เป็นครั้งแรกที่เราจับเจ้า   Honda  HR-V   กลับมาขับใช้งานจริงชีวิตคนเมือง และเมื่อรับกุญแจจากฮอนด้าเราก็ไม่รีรอที่จะพามันตะลุยป่าคอนกรีต ในการขับขี่บนวิถีคนเมือง   Honda HR-V   ตอบโจทย์ด้วยความคล่องตัวที่ทำได้ดีพอๆ กับซิตี้คาร์ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณฮอนด้าที่ติดตั้งชุดพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน ที่ปรับทิศทางด้วยการผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ  EPS (Electronic Power steering)  ทำให้ความรู้สึกยามที่คุณสาวพวงมาลัยในรถยนต์คันนี้ จะได้ความเป็นเก๋งมาเต็มๆ แต่กระนั้นเพื่อไม่ให้รถคันใหญ่ดูคล่องตัวมากเกินไป ทางฮอนด้าเซทน้ำหนักพวงมาลัยมาค่อนข้างมีน้ำหนักพอสมควร แต่ไม่มากจนเกินขับได้ดีทั้งสตรีเพศหรือว่าจะเป็นชายชาตรี

น้ำหนักพวงมาลัยที่ออกมากำลังดี ลงตัวเข้ากับความแม่นยำของชุดพวงมาลัย ที่สามารถบังคับทิศทางได้ดั่งใจคิด และเมื่อคุณดูรวมกับความคล่องตัวของรถที่มาจากการวิศวกรรมเรือนร่างให้ตอบโจทย์ในการขับขี่ ด้วยการออกแบบให้รถมีระยะยืนจากฐานล้อหรือ   Over Hang   ที่สั้นพอๆ กับพี่น้อง Honda Jazz   ของมันอย่างแปลกใจที่ความคล่องตัวของรถจะทำให้คุณทาง เมื่อยามเร่งรีบในตอนเช้าบนทางด่วนที่คับคั่ง หรืออาจจะเป็นยามที่คุณต้องขับในที่แคบ ไปจนถึงการแหวกว่ายท่ามกลางการจราจรที่ติดขัดในรอบวัน

ในช่วงความเร็วต่ำแบบนี้  Honda HR-V   ไม่ได้แสดงสมรรถนะของมันอะไรมากมายในการขับขี่ แต่ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.8  ลิตร ที่ทางฮอนด้าจับยัดมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันมาจากรถยนต์   Honda  Civic   รุ่นปัจจุบัน เมื่อบวกเข้ากับชุดเกียร์   CVT   ที่จะรีดกำลังรอบสูงสุดออกมาใช้เป็นประจำ  เจ้าอเนกประสงค์คันนี้ก็เหลือร้ายในการเดินทางในเมือง พร้อมพุ่งทะยานทุกเมือที่ถ่ายน้ำหนักเท้าลงบนแป้นคันเร่ง  

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

ฟังก์ชั่นหนึ่งที่เราดูเหมือนจะพูดถึงคงไม่ได้ เพราะได้ใช้งานตลอดการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรติดขัดสาหัสเอาการคงไม่พ้น ออพชั่น  Brake Hold  ซึงมีมาให้รถยนต์   Honda  HR-V  

การทำงานของระบบ   Brake  Hold  ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในการขับขี่ของชีวิตคนเมือง ด้วยการเดินทางที่เป็นแบบ เดี๋ยวขับเดี๋ยวหยุด หรือที่ฝรั่งชอบเรียกว่า   Stop & Go  ทำให้บ่อยครั้งที่เราจะต้องเมื่อยเท้าที่จะต้องมาเหยียบเบรกค้างเป็นเวลานานๆ ในรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ และจุดดังกล่าว   Brake  Hold   จะเข้ามาช่วยในการอำนวยความสะดวกในการขับขี่

วิธีการทำงานของ ระบบ   Brake  Hold  คือระบบเบรกจับการหยุดนิ่งของรถและทำการเพิ่มน้ำหนักเบรกล็อคไม่ให้รถยนต์เคลื่อนไหวเอง โดยอัตโนมัติทันทีหลังจากที่คุณเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ ซึ่งทำให้คุณไม่ต้องเหยียบเบรกค้างเอาไว้ตลอดเวลา ช่วยอำนวยความสะดวงง่ายๆ และรวดเร็ว เพียงกดเปิดระบบได้ที่คอนโซลกลางของรถยนต์  Honda  HR-V   จากนั้นขับขี่ตามปกติ โดยเมื่อคุณเบรกหยุดรถ ระบบ Brake Hold จะเข้ามารับช่วงทันทีที่รถหยุดสนิท โดยแสดงคำว่า  “Brake Hold” เป็นอักษรสีเขียว บนหน้าปัด แต่ถ้าในกรณีที่รถหยุดนานเกิน   3  นาที ระบบนี้จะตัดไปใช้ระบบเบรกมือไฟฟ้าเองโดยอัตโนมัติ

การเดินทางที่ต้องฝ่าฟันรถติด เหมือนเช่นเคย   Honda  จัดน้ำมันแก๊สโซฮอล์  91  มาให้เราในรถยนต์   Honda HR-V  1.8  EL   คันนี้และการท่องเที่ยวในเมืองขับไปมา ทุกถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติด ตั้งแต่พระรามสี่  สาธร และสีลม ตลอดจนสุขุมวิทเพื่อให้รู้จริงว่า สภาพการจราจรสุดโหด  อเนกประสงค์คันนี้ จะตอบโจทย์อย่างไร และท้ายสุด เราต้องยอมรับว่า คุณอาจจะต้องทำใจในวันที่การจราจรติดขัดตามวิสัยคนเมือง ด้วยการขับขี่ในเมืองของเรากว่า   52.6   กิโลเมตร และเราเติมน้ำมันคืนถังกว่า  6.121  ลิตร จนเต็ม สรุป อัตราประหยัดเจ้ารถคันนี้ก็เรียกว่ากินไม่ธรรมดาเลยเช่นกัน ด้วยตัวเลขประหยัด  8.6   ก.ม./ลิตร

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

นอกเมืองขับสนุก เดินทางสบาย

 

การขับขี่ Honda  HR-V   ในเมืองแม้จะต้องยอมรับว่า มันอาจจะมีอัตราประหยัดที่ไม่น่าประทับใจนักเนื่องจากเราได้อัตราประหยัดน้ำมันที่ค่อนข้างถือว่า ออกไปแนวทางซดน้ำมันเล็กน้อย เมื่อเทียบกับรถยนต์ขนาด 1.8  ลิตร ด้วยกัน ถึงจะเข้าใจได้ในเรือนร่างอเนกประสงค์ยกสูงก็ตามที

แต่ท้ายที่สุดแล้วเจ้ารถยนต์อย่าง   Honda  HR-V  นั้น ก็น่าจะเป็นรถยนต์คันที่สองภายในบ้านของใครหลายคนที่มีเอาไว้ใช้เพื่อการเดินทางในวันว่างหรือพาครอบครัวไปทำกิจกรรมร่วมกัน

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

งานนี้เพื่อความสมจริงมากขึ้นในการทดสอบ เราจึงจัดทริปพักผ่อนง่ายๆ โดยชักชวนเพื่อนพ้องมาร่วมเดินทางในเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ปลายทางการพักผ่อนที่หลายคนเดินทางไปกันเป็นประจำ เราได้สี่ผู้โดยสารที่มาร่วมท้าพิสูจน์และสมรรถนะในรถยนต์   Honda  HR-V   คันนี้

หลังจากฝ่าการจราจรในเมืองที่คลาคล่ำด้วยผู้คนในที่สุดเราก็ออกสู่ถนนพระราม 2  เส้นทาง ธนบุรี-ปากท่อ และเดินทางด้วยความเร็วตามปกติตั้งแต่ 90-120  ก.ม./ช.ม. และมีใช้ความเร็วสูงบ้างในบ้างจังหวะ เพื่อทำเวลาไปถึงปลายทางตราบใดที่ไม่เจอพี่จ๋ามาตังด่านจับความเร็ว

ความจริงแล้วเปรียบเทียบความรู้สึกเบื้องต้นระหว่าง Honda CR-V   และ   Honda  HR-V   หลังจากที่มีโอกาสสัมผัสทั้งคู่มาแล้ว ต้องยอมรับว่า ถ้าคุณเป็นพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ คงจะถูกใจรถยนต์   Honda  HR-V   มากกว่า ด้วยการให้อัตราเร่งที่พร้อมพุ่งทะยานทุกครั้งที่เดินคันเร่ง  ตามแบบฉบับความสนุกสนานในการขับขี่จากการทำงานของระบบเกียร์ CVT

หากเทียบกับรถยนต์หลายรุ่นในปัจจุบันที่ใช้ระบบเกียร์   CVT   ตอบการขับขี่   Honda  HR-V   ถือว่าเป็นรถที่ขับสนุกมากในระหว่างการเดินทาง คุณมั่นใจได้ในยามที่ต้องฝากชีวิตไว้กับรถคันนี้ยามขับขี่ในสถานการณ์วัดดวง อย่างเช่นการมุด ซ้าย-ขวา ในระหว่างการเดินทาง 

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

และถ้าคุณกำลังมองความประหยัดในรถยนต์คันนี้ลองดูที่รอบเครื่องยนต์ของรถยนต์   Honda  HR-V   ที่ใช้รอบได้ต่ำมากเพียง   1,700 รอบต่อนาที เมื่อเดินทางที่ความเร็ว   100 ก.ม./ช.ม. และ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็ว 120 ก.ม.-ช.ม.   ใช้รอบเครื่องยนต์เพียง   2,100  รอบต่อนาที  

แต่ว่าในแง่หนึ่งเราต้องยอมรับว่า  Honda  HR-V   เป็นรถยนต์ที่มีการวิศวกรรมให้เครื่องยนต์แบกรับภาระนำหนักค่อนข้างน้อย หากนำน้ำหนักมาหารค่าเฉลี่ยต่อแรงม้า เราจะค้นพบว่าน้ำหนักรวมของ  Honda HR-V   1.8  EL   ที่มีพิกัด   1,292 กก.  เมื่อหารด้วยกำลังสูงสุดจากเครื่องยนต์1.8  ลิตร  141   แรงม้า จะทำอัตราเฉลี่ยระหว่างแรงม้า ต่อน้ำหนักเพียง  9.163  กิโลกรัมต่อ 1แรงม้า ถือว่าเป็นน้ำหนักที่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นอื่นๆในกลุ่มเดียวกัน

 

ถึงจะเกิดมาเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ซึ่งมีจุดศูนย์ถ่วงสูงขึ้น แต่อยากบอกเลยว่าคุณอย่าคาดหวังกับเรื่องระบบกันสะเทือนว่าจะต้องมีความนุ่มนวลมากขึ้นให้มากมายนัก  เพราะในข้อเท็จจริง ด้วยการวิศวกรรมที่ใช้พื้นฐานจากรถยนต์   Honda  Jazz   เป็นสำคัญ ทำให้รถยนต์   Honda HR-V  นั้น ยังคงใช้พื้นฐานระบบกันสะเทือนต่างๆจากรถยนต์  Honda  Jazz   ทุกระเบียบนิ้ว ด้วยการเซทระบบกันสะเทือนช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท  และด้านหลังเซทมาในแบบทอร์ชั่นบีม H Shape

 แต่เพื่อความสามารถในการขับขี่มากขึ้นกว่าเดิม   Honda  ได้ผสมผสานการวิศวกรรม ที่ยกเอามาจากรถยนต์   Honda  Accord  พวกเขาหันมาใช้ชุดโช๊คที่สามารถทำงานได้สองจังหวะในการขับขี่ ที่เรียกว่า “amplitude-reactive dampers”  ซึ่งเหมือนคุณมีโช๊ค  2  in  1 และการใช้โช๊คอัพใหม่นี้ก็ทำให้รถมีความแข็งกระด้างเมื่อคุณขับคนเดียว ส่งให้คุณมั่นใจเมื่อยามต้องซิ่งบี้เวลา

และเมื่อผมเอาพี่น้องผองเพื่อมานั่งในรถยนต์คันนี้ เต็มพิกัดพร้อมสัมภาระตามรูปแบบการใช้งานจริงๆ เจ้าHonda  HR-V   ก็ตอบความสบายในการขับขี่มากขึ้น น้ำหนักกดทับมากขึ้นทำให้ ความรู้สึกนิ่มนวลมีมากขึ้น แม้ว่าการเซ็ทระบบกันสะเทือนทางด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม จะยังเป็นหอกข้างแคร่ในยามใช้ความเร็วหรือเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วอยู่บ้าง แต่ก็ดีพอสมควร

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

คณะทัวร์ทดสอบรถยนต์  Honda  HR-V  1.8  EL

ด้านน้องๆ ผู้โดยสารที่อาศัยผมมาเอาเท้าย่ำทะเลในทริปนี้ บอกความรู้สึกหลังถึงที่หมายกับผมตอนนั่งในเบาะตอนหลังของรถยนต์ Honda HR-V   ว่า พวกเขาพอจะรู้สึกได้ถึงความกระด้างของรถ โดยเฉพาะยามใช้ความเร็ว และเป็นไปตามคาดจากผู้เขียนที่เคยสัมผัสรถยนต์คันนี้มาเมื่อตอนทดสอบกลุ่ม   Honda   HR-V   ถูกติติงจากผู้โดยสารตอนหลังว่ายังมีการซัพพอร์ทเบาะไม่ให้ผู้โดยสารรู้สึกเหวี่ยงไปมาน้อยไป และเมื่อบอกความกระด้างจากช่วงล่าง

ลองจินตนาการถึงผู้โดยสารตอนหลังที่จะต้องอดทนในการเดินทางเมื่อคุณใช้ความเร็ว สำหรับวัยรุ่นหรือคนวัยกลางคนอาจจะพอรับได้ แต่ถ้าเมื่อไรคิดว่าจะเอา   Honda HR-V  ไปสร้างความประทับใจให้พ่อตาแม่ยาย ...อันนี้อาจจะไม่ปลื้มเท่าไรนัก

ตลอดการเดินทางที่ใช้ความเร็ว ผ่านถนนทางหลวงทั้งสี่เลนและสองเลน ด้วยผู้โดยสารสี่คนไปยังหัวหินปลายทางในวันนี้ ท้ายที่สุดแล้ว รถยนต์อเนกประสงค์   Honda  HR-V ตอบเรื่องการขับขี่นอกเมืองด้วยอัตราประหยัดที่น่าประทับใจ เราจบทริปด้วยอัตราประหยัด 12.24  ก.ม./ลิตร ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับการนั่งเต็มพิกัดในการใช้งาน และเดินทางด้วยความเร็วในระดับสมเหตุสมผล

 

 

ลองจัด  E 85  ความประหยัดที่ลงตัว

ตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตในรถยนต์   Honda  HR-V   ต้องยอมรับว่า เจ้ารถอเนกประสงค์คันนี้เปี่ยมด้วยความลงตัวในการขับขี่มันมาพร้อมความเป็นปัจเจกในตัวตนของรถยนต์อเนกประสงค์ที่กล้าพูดเลยว่า นาทีนี้ก็ยังไม่มีใครที่ทัดเทียมได้

หนึ่งในหลายๆ ข้อดีของเจ้า  Honda  HR-V   คันนี้ คงหนีไม่พ้นการเป็นเพื่อนแท้ยามน้ำมันราคาแพง ด้วยการสนับสนุนพลังงานทางเลือก   E85   และเป็นรถยนต์รุ่นเดียวในกลุ่มนี้ที่มีความสามารถดังกล่าว

ส่วนหนึ่งที่รีวิวของ   Honda  HR-V   ออกช้ากว่าที่เคยคิดเอาไว้มาก เนื่องจากว่า ส่วนตัวต้องการให้รีวิวรถคันนี้มีความครบครันในทุกด้านของการทดสอบ และเฉกเช่นทุกครั้งที่เราค้นพบว่ารถคันไหนใช้พลังงานทางเลือก   E85  ได้ เราก็มักจะนำมันกลับมาอีกครั้งเพื่อทดสอบ  E85  

ถึงทุกวันนี้ ราคาน้ำมันจะไม่ทำสถิติแพงทะลุเป้าเหมือนช่วงปีก่อน แต่การมีออพชั่นความประหยัดในรถยนต์ก็ทำให้เราใจชื้น และมีโอกาสประหยัดเงินในกระเป๋ามากกว่าคนอื่น โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อการเดินทางมากมายจนเกินความจำเป็น

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

เราซัดน้ำมันแก๊สโซฮอลล์  91  ที่เติมใช้งานตลอดหลายวันที่ผ่านมาจนเรียบร้อย เรียกว่าขับกันจนไฟแดงเตือนเข้าปั้มเตือนแล้วเตือนอีก ว่า เฮ้ย!! เดี๋ยวรถตายกลางทาง จะหาว่าไม่เตือน จนมั่นใจว่า เราจะมีส่วนผสมน้ำมันแก๊สโซฮอล  91  อยู่นอนถึงไม่มาก ก็ได้เวลาที่เราจะจัดหนักยัดน้ำมัน E85   ลองจัดเต็มใน  Honda   HR-V

“น้องเต็มถัง” คำนี้ที่ไม่ได้พูดมาชาติเศษๆ  หลังจากราคาน้ำมันแพง แต่ประโยคนี้ส่วนตัวชอบในความรู้สึกที่ทำให้เราดูเป็นป๋าขึ้นมาทันได้

ถังน้ำมัน  Honda  HR-V มีปริมาตรทั้งสิ้น   50   ลิตร เราใช้เวลาไม่นานนักในการเติมเต็มถัง ด้วยเงินเพียง   980 บาท (การทดสอบอัตราประหยัดด้วยน้ำมัน   E85   มีขึ้นในวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 ราคาจำหน่ายที่ 22.68 บาท/ลิตร)  เราเติมน้ำมันกลับลงถัง 43.21  ลิตร เท่ากับ เรามีอัตราส่วนผสม 91  อยู่ราวๆ 7  ลิตร ในถัง

ทุกอย่างเรียบร้อย เราเริ่มต้นการทดสอบ น้ำมัน E85  ในเมือง โดยใช้เส้นทางที่หลายคนคุ้นเคย ซึ่งความจริงเป็นการขับใช้งานของผมเอง ระหว่างการเดินทางจากบ้านย่านปากเกร็ดไปสำนักงานของ   Autodeft.com   ที่อยู่ย่านสีลมใจกลางเมือง

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

แม้ว่าหลายคนอาจจะค่อนขอดเรื่องของพลังงานทางเลือก E85   แต่ข้อเท็จจริงในความรู้สึกแล้ว เรากลับค้นพบว่า  Honda HR-V   นั้นมีเรี่ยวแรงเร้าใจมากขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อได้ซดน้ำมันทางเลือก ซึ่งมีค่าออกเทนในเนื้อน้ำมันสูงถึง  105  

อัตราเร่งที่ดีกว่า ทำให้ความรู้สึกของรถยนต์   Honda  HR-V   เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างชัดเจน ด้วยความคล่องตัวที่มากกว่า ความเร้าใจในการขับขี่ที่มากกว่าเช่นกัน จนสามารถรู้สึกได้ทันที่ออกตัวจากปั้มน้ำมันที่คุณเติม จนเราอดไม่ได้ที่จะทดสอบอัตราเร่งในระหว่างการใช้งานน้ำมัน E85  (ทำการทดสอบ ภายหลังจากที่มีการทดสอบอัตราประหยัดเรียบร้อยแล้ว)

ตารางแสดงการทดสอบอัตราเร่ง ของรถยนต์   Honda  HR-V   ด้วยน้ำมัน  E85 

 

ครั้งที่  1

ครั้งที่ 2

ครั้งที่ 3

เฉลี่ย

อัตราเร่ง  0-100 ก.ม./ช.ม.

9.97

9.93

9.90

9.93

อัตราเร่ง  80-120  ก.ม./ช.ม.

7.00

7.80

7.10

7.30

 

จากตัวเลขค่อนข้างชัดเจนว่า การเติมน้ำมัน  E85 ในรถยนต์  Honda  HR-V   จะทำให้คุณได้อัตราเร่งที่ใกล้เคียงกับน้องๆ รถสปอร์ตชั้นนำทั้งหลาย ที่ใช้เครื่องยนต์  2.0  N/A   อย่างเช่น   Subaru  BR-Z  รุ่นเกียร์ธรรมดาที่เราเคยนำมาทดสอบ  ที่ทำอัตราเร่งไว้ที่ 8.0  วินาทีในการเร่ง  0-100  ก.ม./ช.ม. และอัตราเร่ง  80-120  ก.ม./ช.ม.ในเวลาเพียง 6.0  วินาที

นั่นหมายถึงคุณมีโอกาสที่จะบี้เจ้าสปอร์ตจอมเกรียนทั้งหลายได้สบาย แถมยังจ่ายค่าความสนุกได้จากการขับขี่ได้ถูกกว่าที่คิดเอาไว้ด้วย

เราขับไปๆมาๆในเมือง เผลอแวบเดียวการใช้รถยนต์   Honda  HR-V   ในการทำธุระปะปังใช้ระยะทางไปแล้วกว่า 218  ก.ม. เราเติมคืนถังตามสูตรการทดสอบด้วยน้ำมันจำนวน 24.25  ลิตร ดีดเครื่องคิดเลขออกมาเท่ากับ ในเมืองที่เราขับใช้งานทั่วไป ถ้าใช้   E85   คุณจะได้อัตราประหยัด  8.98  ก.ม./ลิตร

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

กลับมามีน้ำมัน   E85  เต็มถังอีกครั้ง วันถัดมาเราจัดการนำรถยนต์อเนกประสงค์   Honda  HR-V   ออกวิ่งต่างจังหวัดในระยะทางใกล้ๆ เพื่อดูการตอบสนองของรถในยามเดิม

จะว่าไปการใช้น้ำมัน  E85   กับการเดินทางไกล อาจจะรู้สึกว่ามันค่อนข้างสิ้นเปลืองมากพอสมควร ด้วยส่วนหนึ่งมาตรวัดน้ำมันจะเข็มตกอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะยามใดก็ตามที่คุณเผลอจัดเต็มสมรรถนะในการขับขี่ น้ำมันพร่องประดุจมันหายตัวได้เลยทีเดียว

เรื่องอัตราเร่งที่ดีขึ้นส่งผลถึงความมั่นใจในการขับขี่ ยิ่งยามเดินทางไกล คุณต้องเร่งแซงอย่างรวดเร็วน้ำมัน   E85  ช่วยให้คุณสามารถผ่านอุปสรรคในการขับขี่ได้อย่างไม่ยากเย็นกันจนเกินไปนัก โดยเฉพาะสถานการณ์เร่งแซงบนถนนสองเลนสวน และหลังจากขับในระยะทางกว่า 100  ก.ม.   โดยประมาณ ที่พอจะวัดเรื่องอัตราสิ้นเปลืองได้ เจ้ารถยนต์  Honda  HR-V  ก็ตอบความประหยัดในการขับขี่น่าประทับใจ เราวิ่งมา  113.8  ก.ม. เราเหลือวิ่งได้อีก   405   ก.ม.   และเมื่อบวกรวมแล้วหารปริมาตรน้ำมันเต็มถัง เจ้ารถอเนกประสงค์คันนี้ มีอัตราประหยัด  10.3  กม./ลิตร ใกล้เคียงกับที่ทีมวิศวกร ฮอนด้าบอกว่าพวกเขาทำตัวเลขจากการทดสอบได้  10.8  ก.ม./ลิตร เมื่อขับด้วยน้ำมัน  E85

และท้ายสุดเมื่อเรานำค่าการทดสอบการขับขี่ ด้วยน้ำมันทั้ง แก๊สโซฮอล์   91   และ   E85   มาเปรียบเทียบกันตามภาวะการใช้งานจริง เราค้นพบว่า  E85   มีอัตราประหยัดที่ดีกว่าเมื่อคุณขับในเมือง แต่เมื่อต้องออกเดินทางไกล เราอากแนะนำให้เติมน้ำมันชนิดอื่นที่ไม่ใช่  E85

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

 

ตารางแสดงการเปรียบเทียบอัตราประหยัดน้ำมัน  ของ   Hond HR-V 1.8  EL

อัตราประหยัด (ก.ม./ลิตร)

Gasohal 91

E85

ค่าประหยัดที่ต่างกัน

ในเมือง

8.6

8.98

 -4% (E85 ประหยัดกว่า)

นอกเมือง

12.24

10.8

13% ( Gasohal 91  ประหยัดกว่า)

 

 

สรุป  Honda  HR-V  1.8 EL  ที่สุด ส่วนผสมลงตัว  ความคุ้มค่าที่ยากจะห้ามใจ

 

คงไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นกระแสความนิยมรถยนต์ที่แปรเปลี่ยนมาเป็นยอดจองรถยนต์ใหม่ จนผู้ผลิตต้องประกาศปิดรับจองรถยนต์รุ่นดังกล่าว

Honda  HR-V   เรียกว่าเป็นพระเอกตัวจริงที่มาช่วยฮอนด้าในปีนี้ จนมียอดขายทะลุเป้าไปนานมากแล้ว และสิ่งที่ทำให้รถยนต์คันนี้ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายก็พิสูจน์ตัวเองแล้วผ่านสมรรถนะ รวมถึงความคุ้มค่าของออพชั่นที่ให้มาในรถ จนไม่ว่าใครก็อยากจะจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์คันนี้

จากที่ขับขี่รถยนต์   Honda HR-V   มาตลอดการทดสอบ ต้องยอมรับว่า   Honda  ทำการบ้านมาดีในรถยนต์ Honda HR-V   ส่วนหนึ่งจากประสบการณ์ที่สั่งสมเข้ามาในการผลิตรถยนต์รุ่นนี้วางจำหน่ายในเจนเนอร์เรชั่นแรก เมื่อช่วงปลายยุค 90  ซึ่งอาจจะเร็วเกินไป สำหรับรถยนต์ประเภทนี้

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

แต่เมื่อมาถึงยุคที่คนมองหารถยนต์นั่งขนาดเล็ก   Honda  ก็ทำรถรุ่นนี้ออกมาได้ ไม่ว่าจะการออกแบบที่ลงตัว ตั้งแต่ด้านหน้าจรดบั้นท้ายที่ดูดีเทียบเท่ารถยนต์นั่งสุดหรูบางรุ่นระดับพรีเมี่ยม และลงตัวมากที่สุดในเรื่องการออกแบบจากค่ายรถยนต์รายนี้

ในขณะที่เรื่องการแต่งเสริมเติมออพชั่น ก็มีความลงตัวจัดหนักมาเต็มในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะออพชั่นเพื่อความสบายในการขับขี่ อย่างระบบ   Brake Hold  และชุดเบรกมือไฟฟ้า ไปจนถึงหลังคา  Panoramic Roof   ที่ให้มาในรถรุ่นนี้  ตลอดจนฟังชั่นต่างๆ ที่ค่อนข้างลงตัว

แม้จะยังขาดตกบางอย่างไปบ้าง อาทิเช่น เบาะนั่งปรับไฟฟ้า สมควรอย่างยิ่งยวดที่จะมีมาให้ได้แล้วในรถยนต์คันนี้ ซึ่งมีราคาระดับเหยียบ 7  หลักแล้ว เป็นหนึ่งในเรื่องที่สมควรจะมีมาให้ได้แล้ว

เช่นเดียวกันทางด้านสมรรถนะการขับขี่ถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีความลงตัว แม้ว่าการยกระบบกันสะเทือนมาจาก  Honda Jazz   ทั้งดุ้นแล้วปรับเซทการวิศวกรรมด้วยโช๊คอัพที่ยาวขึ้น พร้อมการให้ชุดโช๊คแบบเดียวที่เซทใน Honda  Accord   จะดูมีความลงตัวในการใช้งาน แต่กระนั้นระบบกันสะเทือนก็ถือว่าค่อนข้างที่จะแข็งไปหน่อย เมื่อเทียบกับพี่ชายใหญ่ของมัน และความสูงของรถที่เพิ่มขึ้นจากฮอนด้าแจ๊ส

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

นอกจากนี้   Honda  ยังไม่ใส่ใจที่จะแนะนำระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในรถยนต์   Honda  HR-V   ทำให้มันขาดสมรรถนะการลุยแบบหอมปากหอมคอ พอเอาสาวไปดูทะเลหมอกได้อะไรแบบนี้ไป และเราคาดหวังว่าจะเห็นออพชั่นนี้ในรุ่นปรับปรุงโฉม เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการนำไปลุยบ้าง

ภาพรวม Honda  HR-V 1.8 EL   คือรถทอปออพชั่นที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบที่สุดในยุค ด้วยการจับยำของดีจากรถยนต์หลายรุ่น ไม่ว่าจะ   Honda accord , Honda  Civic  และรถยนต์   Honda  Jazz   ทั้งหมด  3 in 1  ในเจ้ารถอเนกประสงค์คันนี้ แต่งแต้มความลงตัวในเรื่องของการใช้งาน

ถึงแม้ว่าเจ้ารถยนต์คันนี่อาจจะไม่ใช่รถราคาแพง แต่นาทีที่เราคืนมันสู่อ้อมอกฮอนด้า เรารู้แล้วว่าคำว่า “รถในฝัน” ของพวกเขาคืออะไร มันคือรถที่เปี่ยมด้วยความลงตัวทุกการใช้ชีวิตของคุณ มันอาจจะไม่จำเป็นต้องหรูมาก แต่ดูดีพอที่จะทำให้คุณดูมีสไตล์ และถ้าวันนี้คุณมองรถรุ่นนี้อยู่ ส่วนตัวกล้าพูดเลยว่าคุณจะไม่มีวันผิดหวังกับรถยนต์ที่ชื่อ   Honda HR-V

 

ขอบคุณสถานที่สวยๆจาก  Danus Hobby ‘s Farm  

ขอบคุณรถทดสอบจาก  บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)  จำกัด

ที่มาข้อมูลประวัติ   Honda HR-V   - wikipedia

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง  Fan page  ,Twiter (@nattayodc)

                                                                                 

 

รถทดสอบ   Honda  HR-V 1.8 EL

ราคาจำหน่าย 1,045,000 บาท

 

สิ่งที่ชอบ >>>  ความลงตัวในการใช้งาน ผสานการออกแบบและการวิศวกรรมอย่างชัดเจน เพียงพอต่อคำว่าชีวิตคนเมือง และดีพอที่จะนำมันออกเดินทางไกล เป็นโจทย์ที่เชื่อว่าหลายคนก็คงคิดเห็นว่ารถคันนี้เหมาะสมที่จะซื้อหามาใช้งาน

 

สิ่งที่ไม่ชอบ >>>  เบาะนั่งที่ยังดูแข็งไปหน่อยเมื่อใช้งานเป็นเวลานานๆ ช่วงล่างที่เซทแบบสปอร์ตมีข้อดีและข้อเสียในตัว โดยเฉพาะถ้าคุณต้องนำรถคันนี้ไปรับผู้หลักผู้ใหญ่ ...อาจจะไม่โอเคเท่าที่ควรนัก รวมถึงมาตรวัดแบบสปอร์ตที่ทำออกมาเป็นสามมิตินั้น ดูแล้วปวดตายิ่งในยามค่ำคืน จนบางครั้งอาจจะทำให้ผู้ขับขี่เวียนหัวได้

 

สิ่งที่อยากให้มี >>>> ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ   Real Time   น่าจะมีมาให้เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการสมรรถนะเรื่อองการลุยบ้าง และน่าจะลองพิจารณาเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับระเทศไทยบ้าง ..

 

คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ >>> ถ้าสนใจรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้อยู่บอกเลยว่าทุกอย่างคุ้มค่ามากที่สุด เพียงแต่ต้องยอมรับในความเป็นฮอนด้าแจ๊สที่เป็นดีเอ็นเอในตัวตนรถคันนี้ให้ได้ก็เท่านั้น และถ้าวันนี้คุณไม่ต้องการเรื่องหลังคามูนรูฟ ก็อยากแนะนำให้ประหยัดงบด้วยการซื้อ Honda  HR-V  E Limited

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY1569]

5 เรื่องน่าสนใจ