Hands On : New Mazda 2 (2017) เพิ่มเติมตัวช่วยการขับขี่สุดล้ำ ในราคาสุดคุ้ม

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 3 มี.ค. 60 00:00
  • 51,805 อ่าน

หนึ่งในตัวเลือกซับคอมแพคที่โดดเด่นทั้งเรื่องดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่ควบคุม และเทคโนโลยีสุดล้ำ New Mazda 2 จึงเป็นอันดับต้นๆ ที่ใครต่อใครต่างมีไว้อยู่ในตัวเลือก ซึ่งล่าสุดทางมาสด้าก็ได้เพิ่มเติมเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ควบคุมที่ดียิ่งขึ้น ในรุ่นปรับโฉมปี 2017 รวมไปถึงการตกแต่งที่แตกต่างเพิ่มเติมความพรีเมี่ยม

โอกาสอันดีที่ทาง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เรียนเชิญทีมงาน autodeft.com เข้าร่วมสัมผัส New Mazda 2 รุ่นปรับโฉมปี 2017 บนเส้นทางกรุงเทพมหานคร - ชลบุรี (พัทยา) ซึ่งก่อนหน้าไม่นานนี้ทางทีมงานก็ได้มีโอกาสไปสัมผัส Mazda 3 ใหม่ ที่อัดแน่นเทคโนโลยี ที่เพิ่มเติมตัวช่วยการขับขี่ และปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบ GVC ที่เปิดตัวครั้งแรกในมาสด้า 3 ใหม่ (Hands On : Mazda 3 2017 ...เปลี่ยนให้เชื่อง เพิ่มเติมความปลอดภัย) ซึ่งทางมาสด้าก็ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวติดตั้งลงใน New Mazda 2 ที่ทีมงานไปสัมผัสกันในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

รูปลักษณ์ภายนอกหากมองหาถึงความแตกต่างแล้ว New Mazda 2 มีหลายจุดที่ถูกปรับไปไม่น้อย มีการปรับสีของพื้นผิววัสดุที่ใช้ ทั้งกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีเทาเมทัลลิก ล้ออัลลอยสีใหม่ เพิ่มเสาอากาศแบบครีบฉลาม ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่มาพร้อมไฟ LED และกรอบโครเมียม บริเวณไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างถูกติดตั้งอยู่บริเวณขอบด้านนอกแทน และสีของตัวถังมากับสีใหม่ สีน้ำเงินเอเทอนัล บลู ไมก้า พร้อมตัวเลือกสีสันอื่นๆ กับสีแดง โซล เรด, สี อลูมินัม เมทัลลิก, สีขาวมุก สโนว์เฟล, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีเทา เมทิเออ เกรย์ ไมก้า และ สีดำ เจ็ทแบล็ก รวมทั้งหมดแล้วถึง 7 สีด้วยกัน

ภายในตกแต่งเพิ่มเติมความหรูหรา เบาะหนังสีดำผสมกับบริเวณกึ่งกลางของเบาะนั่งเป็นหนังสักหลาดเทียมให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลในรุ่นบน พร้อมการเดินตะเข็บแนวขวางให้ความรู้สึกสปอร์ต และบริเวณแดชบอร์ดตกแต่งด้วยหนังแท้สีดำพร้อมสีน้ำตาลและสีบรอนซ์ ในด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวก New Mazda 2 มีมาให้อย่างครบครัน ล้ำกว่าด้วยหน้าจอ Active Driving Display ที่แสดงความเร็วและสถานะการทำงานอื่นๆ ในแบบสี พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ยกมาจากรุ่นพี่มาสด้าซีเอ็กซ์-9 ที่แป้นกลางพวงมาลัยมีขนาดเล็กลงแต่เส้นรอบวงของพวงมาลัยขนาดเท่าเดิม ช่วยให้รูปทรงโดยรวมดูเฉียบคมขึ้น พร้อมกับปุ่มควบคุมต่างๆ และปุ่มควบคุมระบบ Cruise Control บนพวงมาลัยที่ใช้งานได้ง่าย ระบบ MZD Connect ใหม่ล่าสุดที่เชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์อย่างง่ายดาย และเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ

เริ่มต้นการเดินทางย่านถนนพระรามที่ 4 ช่วงต้นนี้ทีมงานเดินทางไปกับ New Mazda 2 เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร การจราจรยามสายในเมืองค่อนข้างหนาแน่นเช่นทุกวัน การขับขี่ในช่วงนี้จึงต้องการความคล่องตัวของตัวรถสูง New Mazda 2 เครื่องยนต์เบนซินให้การตอบสนองอย่างดี น้ำหนักพวงมาลัยเบากำลังดีในช่วงความเร็วต่ำ และครั้งเมื่อเดินทางออกนอกเมืองบนเส้นทางพิเศษบูรพาวิถี น้ำหนักพวงมาลัยหนืดขึ้นกำลังดีไม่หนักจนเกินไป พร้อมการตอบสนองของช่วงล่างที่นุ่มหนึบออกไปในทางสปอร์ตมากกว่า

บวกกับพละกำลังของเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 1.3 ลิตร ก็ให้การตอบสนองแบบสบายๆ มอบพละกำลัง 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมสวิตซ์ Drive Selection ที่จะเติมเต็มการขับขี่สไตล์สปอร์ตอีกขั้นเฉพาะในรุ่นเบนซิน และประหยัดกว่าด้วยระบบ i stop (idling stop system) กับระบบช่วยประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ i ELOOP หรือระบบเปลี่ยนรูปพลังงานที่สูญเสียจากการชะลอหยุดรถกลับมาใช้ ช่วยให้ประหยัดเชื้อพลิงมากยิ่งขึ้น

ไม่นานนักก็เดินทางไปถึงยังจุดนัดพับแรกที่ จ.ชลบุรี ก่อนจะพักรับประทานอาหารและเดินทางกลับ ทีมงานได้สลับเปลี่ยนมาขับ New Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน SKYACTIV-D ขนาด 1.5 ลิตร หลายๆ ท่านทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องยนต์ดีเซลนั้นเป็นเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังสูง แต่เดิมจนถึงปัจจุบันจะสังเกตเห็นได้ว่ารถกระบะ หรือรถที่ต้องการพละกำลังแรงบิดสูงๆ จะเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซลในการขับเคลื่อน และเมื่อมันถูกติดตั้งอยู่ในรถเก๋งแล้วจะมอบพละกำลังและให้ความสนุกเร้าใจขนาดไหน

ตามตัวเลขสเปคนั้น เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน SKYACTIV-D ขนาด 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมความสามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการที่คันเกียร์ หรือแป้น Paddle Shift หลังพวงมาลัยได้ตามต้องการ ทำให้ผู้ขับสามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้ตามใจสั่ง แรกสัมผัสหลังเดินคันเร่งนั้น พละกำลังและแรงบิดมหาศาลพร้อมจะพาตัวรถมาสด้า 2 ทะยานออกไปอย่างง่ายได้ แต่ค่อนข้างเป็นไปอย่างสุขุมนุ่มนวล ในช่วงลัดเลาะขับขี่ในเมืองอาจจะไม่ต้องการใช้ความเร็วมากมายการตอบสนองต่างๆ จึงไม่แตกต่างกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน

แต่เมื่อครั้งต้องการเรียกกำลังและใช้ความเร็วแล้ว เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D ให้การตอบสนองและอารมณ์ในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าต้องการไต่ความเร็วที่ใช้ในการเดินทางขึ้นไป สามารถทำความเร็วขึ้นไปได้แบบสบายๆ หรือแม้กระทั่งการเพิ่มความเร็วในช่วงของการเร่งแซงก็สามารถเรียกพละกำลังอย่างง่ายดายเพียงเติมคันเร่งลงไปเพียงเล็กน้อย บวกกับความราบเรียบของระบบเกียร์ที่ต้องบอกเลยว่าสมูทมากๆ ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ช่วงตัดต่อระหว่างเกียร์แทบจะไม่มีอาการให้รู้สึก และด้วยความสามารถในการขับขี่ที่ช่วงความเร็วเดินทาง 100-120 กม./ชม. อัตราประหยัดน้ำมันนั้นเป็นที่ประทับใจอย่างมากถึงกว่า 20 กม./ลิตร ทีเดียว ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ให้ทั้งพละกำลังสูง พร้อมกับความประหยัดอันยอดเยี่ยม

อีกไฮไลท์เด็ดล่าสุดของ New Mazda 2 รุ่นปรับโฉมปี 2017 ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ระบบ G-VECTORING CONTROL (GVC) หรือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หนึ่งในชุดเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่ถูกใส่เข้ามาในรถรุ่นนี้ หลายคนยังสงสัยว่าระบบนี้ทำหน้าที่อย่างไร ระบบ GVC นั้นทำหน้าที่ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้แปรตามการสั่งการจากพวงมาลัย เพื่อควบคุมให้แรงจีทั้งแนวดิ่งและแนวนอนเป็นหนึ่งเดียว และเสริมประสิทธิภาพการรับน้ำหนักในแนวดิ่งของยางแต่ละเส้น ให้รถยนต์ขับเคลื่อนไปได้อย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพสูงสุด GVC ช่วยควบคุมแรงบิด ทำให้เกิดการผ่อนแรงจีทันทีเมือเริ่มหมุนพวงมาลัย ทำให้การรับน้ำหนักถูกถ่ายไปที่ล้อหน้าจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนให้ดีขึ้น และการตอบสนองของรถดีขึ้น เมื่อผู้ขับบังคับพวงมาลัยให้อยู่ในองศาที่คงที่แล้ว GVC ก็จะช่วยเรียกคืนแรงบิดของเครื่องยนต์กลับมาและถ่ายน้ำหนักไปที่ล้อหลังเพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับตัวรถ การถ่ายน้ำหนักนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนให้แก่ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง รถจะขับเคลื่อนไปดังความตั้งใจของผู้ขับและมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความมั่นใจในการขับขี่และปลอดภัยมากกว่าเดิมนั้นเอง


ซึ่งหากไม่ได้ขับเทียบความรู้สึกกันระหว่างรุ่นที่มีและไม่มีระบบดังกล่าวแล้ว อาจจะจับความรู้สึกถึงความแตกต่างที่ชัดเจนออกมาไม่ได้ แต่เมื่อได้ลองเปรียบเทียบและใช้งานกันแล้วนั้น ระบบ GVC ที่ถูกติดตั้งเข้ามานี้ช่างอัจฉริยะเหลือเกิน สัมผัสที่ได้คล้ายกับการขับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเข้าโค้งในความเร็วได้แบบสบายๆ รวมถึงอาการเหวี่ยงต่างๆ ที่พอจะรู้สึกได้ว่าลดน้อยลงไปมากเลยทีเดียว

ทั้งนี้ New Mazda 2 ยังได้ติดตั้ง i-Activsense กับ Advanced Blind Spot Monitor (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน และ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง พร้อมระบบความปลอดภัยครบครันไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมระบบ 4W-ABS EBD กับระบบดิกส์กึ่งดรัมและดิกส์เบรก 4 ล้อ ตามลำดับพร้อม ระบบควบคุมการทรงตัว DSC ระบบควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบช่วยออกตัวทางชัน HLA ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS กล้องมองหลังและเซนเซอร์กะระยะช่วยจอด 4 จุด ที่ด้านหลังเพื่อความสะดวกในการถอยจอด

New Mazda 2 รุ่นปรับโฉมปี 2017 รถยนต์รุ่นล่าสุดจากมาสด้าที่มายกระดับตอบโจทย์ความต้องการอีกขั้น พร้อมมอบความรู้สึกในการขับขี่ที่เร้าใจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “THE NEXT LEVEL OF EXCITEMENT” กับราคาเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามา อย่างนี้แล้ว New Mazda 2 จะไม่อยู่ในตัวเลือกอันดับต้นๆ ได้อย่างไร

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ