ปีนี้ติดลบแน่ ยอดขายรถใหม่เดือนพฤศจิกายนยังร่วง 9.8% รถกระบะยังไม่ฟื้น ฟุบสุดติดลบ 38.8%

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 21 ธ.ค. 66
  • 2,104 อ่าน

ยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยยังไม่ฟื้น เพราะยอดขายรถใหม่เดือนล่าสุด พฤศจิกายน ยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ของปีนี้ ร่วงอีก 9.8% โดยกลุ่มที่ร่วงหนักสุดคือรถกระบะ หล่น 38.8%

ยอดขายรถ

ภาพรวมของตลาดรถยนต์พฤศจิกายนยังชะลอตัวต่อเนื่องที่ 9.8% ด้วยยอดขาย 61,621 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 21.2% ด้วยยอดขาย 24,567 คัน โดยอีโคคาร์เป็นเพียงเซกเมนท์เดียวที่มีการเจริญเติบโตที่ 32.2% ด้วยยอดขาย 18,783 คัน ในขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 22.8% ด้วยยอดขาย 37,054 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน หดตัวถึง 39.1% ด้วยยอดขาย 22,104 คัน ปัจจัยหลักเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่เติบโตได้ตามที่คาดการ ความมั่นใจผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว โดยมีอุปสรรคสำคัญคือความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ อันเป็นผลมาจากความกังวลต่อความสามารถในการผ่อนชำระของผู้รับสินเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  

ตลาดรถยนต์ธันวาคมมีความหวังฟื้นตัวขึ้นตามฤดูกาลขาย “High season” โดยมีความหวังสำคัญคือแคมเปญกระตุ้นตลาดช่วงสุดท้ายของปีในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 ซึ่งสามารถกวาดยอดจองรถทุกยี่ห้อในงานตลอด 14 วัน ได้ถึง 53,248 คัน เติบโตขึ้นถึง 45.17% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่ายอดจองเหล่านี้จะมาผลักดันตลาดรถยนต์เดือนธันวาคมให้เติบโตขึ้นได้มากน้อยเพียงใด

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 61,621 คัน ลดลง 9.8%
อันดับที่ 1 Toyota 21,700 คัน ลดลง 11.6 %
อันดับที่ 2 Isuzu 10,415 คัน ลดลง 37.1%
อันดับที่ 3 Honda 7,328 คัน เพิ่มขึ้น 0.0%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 24,567 คัน เพิ่มขึ้น 21.2%
อันดับที่ 1 Toyota 7,512 คัน  ลดลง 10.6%
อันดับที่ 2 Honda 3,928 คัน ลดลง 11.5%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 872 คัน ลดลง 41.4%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 37,054 คัน ลดลง 22.8%
อันดับที่ 1 Toyota 14,188  คัน     ลดลง 12.1%
อันดับที่ 2 Isuzu 10,415 คัน ลดลง 37.1%
อันดับที่ 3 Honda 3,400 คัน เพิ่มขึ้น 17.6%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 22,104 คัน ลดลง 39.1%
อันดับที่ 1 Isuzu 9,377 คัน ลดลง 39.0%
อันดับที่ 2 Toyota 8,544 คัน ลดลง 37.3%
อันดับที่ 3 Ford 2,324 คัน ลดลง 51.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,251 คัน Isuzu 1,500 คัน – Toyota 1,422  คัน - Ford 845  คัน – Mitsubishi 406  คัน – Nissan 78 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 17,853 คัน ลดลง 38.8%
อันดับที่ 1 Isuzu 7,877 คัน ลดลง 38.3%
อันดับที่ 2 Toyota 7,122 คัน ลดลง 36.2%
อันดับที่ 3 Ford 1,479 คัน ลดลง 56.8%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม –พฤศจิกายน 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 707,454 คัน ลดลง 7.7%                             
อันดับที่ 1 โตโยต้ 241,844 คัน ลดลง 6.5%
อันดับที่ 2 Isuzu 141,671 คัน ลดลง 27.1%
อันดับที่ 3 Honda 84,516 คัน เพิ่มขึ้น 13.4%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 266,365 คัน เพิ่มขึ้น 10.8%                               
อันดับที่ 1 Toyota 92,034 คัน เพิ่มขึ้น 24.7%
อันดับที่ 2 Honda 51,297 คัน ลดลง 8.2%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 14,291 คัน ลดลง 26.1%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 441,089 คัน ลดลง 16.2%                   
อันดับที่ 1 Toyota 149,810 คัน    ลดลง 18.9%
อันดับที่ 2 Isuzu 141,671 คัน ลดลง 27.1%
อันดับที่ 3 Honda 33,219 คัน เพิ่มขึ้น 78.2%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 301,001 คัน ลดลง 26.9%
อันดับที่ 1 Isuzu 127,260 คัน ลดลง 29.0%
อันดับที่ 2 Toyota 118,075 คัน ลดลง 25.1%
อันดับที่ 3 Ford 33,636 คัน ลดลง 11.6%
 *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 55,806 คัน Toyota 20,318 คัน - Isuzu 19,531 คัน – Ford 10,963 คัน – Mitsubishi 3,930 คัน – Nissan 1,064 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย  245,195, คัน ลดลง 30.5%
อันดับที่ 1 Isuzu 107,729 คัน ลดลง 33.3%
อันดับที่ 2 Toyota 97,757 คัน ลดลง 26.4%
อันดับที่ 3 Ford 22,673 คัน ลดลง 24.0%

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ