รถไฟฟ้าคันจิ๋วของ BYD เขย่าตลาดเคคาร์ญี่ปุ่น จนแชมป์ขายดีต้องทบทวนอนาคตใหม่ทั้งหมด

การรุกตลาดญี่ปุ่นของ BYD ด้วยรถไฟฟ้าขนาดเล็ก Racco กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนไปไกลกว่าที่คาดไว้ แม้รถจะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ผลกระทบก็เริ่มชัดเจนแล้ว ล่าสุดมีรายงานว่า Honda เตรียมเดินเกมตอบโต้ ด้วยแผนเปิดตัว Honda N-Box เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนภายในปี 2027

หากเกิดขึ้นจริง นี่จะเป็นครั้งแรกที่ N-Box รถเคคาร์ที่ขายดีที่สุดของญี่ปุ่น ถูกนำเสนอในรูปแบบรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ หลังจากครองตำแหน่งรถใหม่ขายดีอันดับหนึ่งของประเทศติดต่อกันถึงสามปี

ปัจจุบัน Honda N-Box ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 658 ซีซี ให้กำลัง 58 แรงม้าในรุ่นปกติ และ 63 แรงม้าในรุ่นเทอร์โบ โดย Honda เพิ่งเปิดตัว N-Box เจเนอเรชันที่ 3 ไปเมื่อสองปีก่อน และยังคงเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยยอดขายมากกว่า 206,000 คันในปีที่ผ่านมา

สำหรับเวอร์ชันไฟฟ้า รายละเอียดทางเทคนิคยังมีจำกัด เนื่องจากโครงการยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่หาก Honda ต้องการให้ N-Box EV เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ BYD Racco ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในญี่ปุ่นปี 2026 ก็จำเป็นต้องมีสเปกที่สูสี

BYD Racco ถูกคาดว่าจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 20 kWh ให้ระยะทางวิ่งประมาณ 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองตามสไตล์เคคาร์

รายงานจาก Nikkei Asia ระบุว่า Honda ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาทั้งเรื่องระยะทางวิ่งและกลยุทธ์ด้านราคา โดยจุดสำคัญคือ N-Box ไฟฟ้าจะไม่เข้ามาแทนที่รุ่นเครื่องยนต์สันดาป แต่จะทำตลาดควบคู่กัน เพื่อเปิดทางเลือกให้ผู้บริโภค แทนการบังคับเปลี่ยนผ่าน

แม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศกลับเติบโตช้ากว่าที่หลายคนคาด ปัจจุบัน EV มีสัดส่วนเพียงราว 2 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรถใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม รถไฟฟ้าขนาดเล็กอย่าง Nissan Sakura และ Mitsubishi eK X กลับประสบความสำเร็จสูง โดยรวมกันคิดเป็นเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย EV ในประเทศ

นอกจาก Honda แล้ว Suzuki ก็ถูกระบุว่ากำลังพัฒนารถไฟฟ้าขนาดเล็กของตัวเองเช่นกัน แม้รายละเอียดจะยังไม่ชัดเจน ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมดหรือดัดแปลงจากรุ่นที่มีอยู่ แต่ชัดเจนว่าการมาของ BYD กำลังเร่งให้ผู้ผลิตญี่ปุ่นต้องขยับตัวเร็วกว่าที่เคย

ตลาดเคคาร์ญี่ปุ่นที่เคยมั่นคง อาจกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ และรถไฟฟ้าคันเล็กจากจีน อาจเป็นตัวจุดชนวนให้เกมนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ที่มา Carscoops