Life Test : Nissan Note 1.2 VL ซิตี้คาร์อัจฉริยะ..ตรงใจคนเมืองยุคใหม่

  • โดย : Autodeft
  • 23 พ.ค. 61
  • 27,498 อ่าน

ถ้าจะกล่าวถึงค่ายรถที่บุกเบิกตลาดรถ Eco Car ให้เป็นที่โจษจัน ก็คงหนีไม่พ้นค่าย Nissan นับตั้งแต่ส่ง 2 รุ่นเด่นทั้ง Nissan March ในปี 2553 และหนึ่งปีถัดมากับ Nissan Almera กวาดยอดขายไปมากกว่า 500,000 คัน และล่าสุด Nissan Note สมาชิกน้องใหม่ในตระกูล Nissan City Car สานต่อความสำเร็จ สานต่อความนิยมอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของรถ Eco Car เมืองไทย

Nissan Note

ความจริงในต่างประเทศ Nissan Note วางจำหน่ายมานาน 14 ปี สำหรับเมืองไทยเปิดตัวไปเมื่อปีกลาย (เจเนอเรชั่นที่สองในรหัส E12) ออกขายในช่วงแรกๆอาจไม่ได้รับความนิยม แต่ด้วยความโดดเด่นของตัวรถ กับ ข้าวของที่ให้มากลับได้รับความสนใจจากสาวกและมือใหม่ที่ไม่เคยใช้แบรนด์ นิสสัน เป็นจำนวนมาก ภายนอกปรับโฉมตามตลาดโลกในร่าง Hatchback 5 ประตู หล่อมีเอกลักษณ์ด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยมรูปตัววี Nissan’s V-motion grille รับกับไฟหน้าทรง Projector แบบ LED ปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อม LED Signature Light ในโคมเดียวกัน กันชนหน้าทรงสปอร์ต พร้อมแถบโครเมี่ยมตรงช่องกันชนด้านล่าง ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าเป็นออพชั่นมาตรฐานช่วยให้ตัวรถดูภูมิฐานมากขึ้น

Nissan Note

เส้นสายด้านข้างบนประตูกับเหลี่ยมมุมที่เฉียบคมและปราดเปรียว ลงตัวด้วยกระจกมองข้างดีไซน์เก๋แบบปีกนกพร้อมไฟเลี้ยวฝังตัวกระจกแบบ LED ทำให้โดดเด่นขึ้น แต่มาสะดุดตรงที่ล้ออัลลอยถึงแม้จะยกชุดมาจาก Nissan Almera แต่ก็ทำให้ขัดตาไปนิดนึงโดยเฉพาะดีไซน์ล้อ โดยวงล้อที่ติดรถมาเป็นขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง Dunlop Enasave EC300 ขนาด 185/65 R15 ด้านท้ายติดตั้งเสาอากาศแบบหนวดกุ้ง บนหลังคารถถึงแม้จะไม่ใช้แบบครีมฉลามตามสมัยนิยม พร้อมชุดไฟท้าย LED ทรง Boomerang Design และสปอยเลอร์หลังปกปิดความโล้นของขอบฝากระโปรงท้ายได้อย่างแนบเนียน มิติตัวรถบอกได้เลยว่าใหญ่ Nissan March เป็นแน่แท้ ตั้งแต่ความยาว 4,105 มม. ความกว้าง 1,695 มม. ความสูง 1,535 มม. ฐานล้อ 2,600 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 155 มม.

Nissan Note

Nissan Note

ก่อนจะก้าวสู่ภายในอันกว้างขวางและออรถประโยขน์ใช้สอยที่จัดเต็ม เริ่มที่ห้องโดยสารเข้มแต่สุขุมด้วยโทนสีดำ-เทา พร้อมเบาะนั่งผ้าแบบสีดำ-เบจขาว ถึงโครงสร้างเบาะอาจยกชุดมาจาก Nissan Almera กับ Nissan March แต่ก็ยังให้ความโอบกระชับสบาย ตลอดการขับขี่ โดยฝั่งคนขับปรับสูง-ต่ำได้ ในส่วนเบาะด้านหลังบอกได้คำเดียวว่าสุดยอดเลยลูกพี่ ด้วยหลังคารถที่สูงทำให้มีพื้นที่เหนือศีรษะโล่งมากขึ้นและมีผลดีในเรื่องทัศนวิสัยในการมองรอบคันชัดเจน

ผนวกกับพื้นที่วางขาที่กว้างเทียบเท่ากับคู่แข่งระดับเดียวกัน ทำให้นั่งสบายไม่เมื่อยจนเกินไป แถมยังเอาใจสาวๆนักช็อปที่ชอบซื้อของแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ ด้วยเบาะหลังสามารถพับเก็บได้แบบ 60/40 ทำให้จุสัมภาระมากกมายสุดประมาณ 300 กว่าลิตรแต่อนิจจาเอ๋ย เมื่อพับเบาะลง พื้นของพื้นที่สัมภาระท้ายกลับไม่เป็นแนวราบกลายเป็นเล่นระดับไปเสียดื้อๆอาจทำให้การวางของชิ้นใหญ่อาจจะเสียหายได้

Nissan Note

แผงคอนโซลหน้าดีไซน์อาจคุ้นตาเพราะมีส่วนคล้ายกับ Nissan Almera และ Nissan March โดยเฉพาะช่องแอร์ทรงกลมที่สามารถหมุนได้ 360 องศา ตกแต่งด้วยโทนสีดำทั้งแผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยสีดำเข้ม Piano Black การจัดตำแหน่งฟังก์ชั่นต่างๆลงบนแผงคอนโซลหน้าถ้าคุณเคยขับทั้งรุ่น Almera และ March แล้วมาขับ Note บอกได้เลยว่าหวานหมูเพราะการจัดวางจะอยู่ในระดับเดียวกัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน เก๋ด้วยการออกแบบวงพวงมาลัยแบบทรงท้ายตัด D-Shape เพื่อหลบตำแหน่งต้นขา สะดวกในการขยับขาเพื่อเหยียบคันเร่งกับแป้นเบรกได้ดียิ่งขึ้น

พร้อมกุญแจรีโมทอัจฉริยะแบบ Keyless Entry ดีไซน์ตัวรีโมทพิมพ์เดียวกันและใช้ในรถ Nissan ทุกรุ่นที่จำหน่าย สามารถสั่งล็อคกับปลดล็อคได้สองทางทั้งที่ปุ่มสีดำตรงก้านที่เปิดประตูโครเมี่ยม สองฝั่ง (ฝั่งคนขับกับคนนั่ง) หรือตัวกุญแจฯ โดยอย่างแรกสบายสุดเพียงแค่เก็บใส่กระเป๋ากางเกงก็กดปุ่มได้ทันทีและปุ่ม Push Start ที่กดปุ๊บติดทันที

Nissan Note

Nissan Note

มาตรวัดเรืองแสงอัจฉริยะมัลติฟังก์ชัน ติดตั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แสดงระยะการเข้ารับบริการ อุณหภูมิภายนอก นาฬิกาดิจิทัล เสียงสัญญาณเตือนลืมปิดไฟหน้า สบายด้วยเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติทรงคุ้นเคย เครื่องเล่น DVD พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว จาก Kenwood รุ่น DDX 7015BT เชื่อมต่อ AUX, USB, Bluetooth และช่องเชื่อมต่อ AV-in, HDMI ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบ Bluetooth พร้อมลำโพง 4 ตัว ปล่อยพลังเสียงแบบไปวัดไปวาเพียงพอแล้วสำหรับคนที่มีจิตใจพอเพียงไม่อยากอัพเกรดระบบลำโพงอีก และที่ขาดไม่ได้เลยคือสารพัดช่องเก็บของและที่วางแก้วรอบคัน 

Nissan Note

เมื่อมองมาที่ข้างบนหลังคาภายในรถก็จะพบกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติตอนขับรถยามค่ำคืน แต่ว่าไม่ธรรมดาเพราะ Nissan ต้องการให้ Nissan Note เป็นยานยนต์สมัยใหม่ตามแนวคิดเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต Nissan Intelligent Mobility ติดตั้งจอแสดงภาพขนาดเล็กมาให้โดยมีหน้าที่แสดงภาพจากกล้องรอบคัน Intelligent Around View Monitor (AVM) ที่ติดมาตั้งแต่ด้านหน้ากับด้านหลังอย่างละ 1 จุด และใต้กระจกมองข้างฝั่งละ 1 จุด รวม 4 จุด สามารถมองได้ทั่วถึงทั้งในยามขับรถในซอยแคบๆ จอดรถ หรือแม้กระทั่งถอยหลัง ก็สามารถมองจากภาพดังกกล่าวได้ (ถ้าที่คิดว่าการมองภาพถอยหลังจากกระจกมองหลังจะเป็นอุปสรรค สามารถอัพเกรดติดตั้งชุดจอแสดงภาพเพิ่มที่เครื่องเสียงจอสัมผัส Kenwoodได้เลย)

Nissan Note

Nissan Note

ทีมวิศวกร นิสสัน สรรหาขุมพลังที่เหมาะสมตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างดีที่สุด จึงเป็นที่มาของการยกชุดขุมพลังจากสองพี่น้องร่วมชายคานั่นคือเครื่องยนต์เบนซินรหัส HR12DE 3 สูบแถวเรียง ขนาด 1.2 ลิตร พร้อมระบบ CVTC (Continuously Variable-valve Timing Control) กำลังสูงสุด 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ปล่อย CO2 ที่ 120 กรัมต่อกิโลเมตร คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT D-Step Logic

Nissan Note

รถยนต์ทรง Hatchback 5 ประตูรุ่นนี้ มองผ่านๆคล้ายคู่แข่ง B-Car ค่ายยักษ์เครื่อง 1.5 ลิตร แต่เมื่อต้องมาตีตั๋วเป็นรถ Eco Car เครื่อง 1.2 ลิตรผนวกกับแบกน้ำหนัก 1,061 กก. ทำให้เรี่ยวแรงอืดพอสมควรในการใช้งานในเมือง แต่ได้ความดีในเรื่องกำลังเครื่องลื่นไหลกระฉับกระเฉง ช่วงความเร็วสูงๆ โดยรวมแล้วดูไม่เลวร้ายมากนัก ถึงแม้รอบเครื่องยนต์ในช่วงความเร็ว 90-120 กม./ชม. อาจสูงก็ตามตั้งแต่ 1,600 1,800 2,000 และ 2,200 ตามลำดับ ระบบเกียร์อัตโนมัติถึงจะพัฒนาใหม่ แต่ฟิลลิ่งความสปอร์ตก็ยังมีให้เห็นกันบ้างในช่วงตัดรอบขึ้นเมื่อเครื่องลากรอบจนสุดและให้โหมด Sport มาสำหรับคนเท้าขวาหนัก เร่งแซงค่อนข้างทันใจ ส่วนการเก็บเสียงนั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตัรท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง การโดยการเซ็ตช่วงล่าง ทำผลงานออกไปทางแข็งแต่หนึบแน่น พอตัว ในยามความเร็วสูงราวๆ 130-140 กม./ชม. ระบบพวงมาลัยเป็นแบบพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS งานนี้เซ็ตพวงมาลัยได้เบาสำหรับการใช้งานในเมือง ควบคุมง่าย แต่มีน้ำหนักเพิ่มนิดหน่อยในช่วงความเร็วสูง มั่นใจมากขึ้นในการควบคุม มั่นใจมากขึ้นด้วยสารพัดตัวช่วยต่างๆทั้ง ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC และ ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA

ระบบความปลอดภัยที่บรรดา Eco Car 5 ประตู ให้มาเพื่อตอบโจทย์คนเมือง Nissan Note สร้างจุดเด่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning (FCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking ทั้งยานยนต์ และ บุคคล Pedestrian (FEB/PFEB), ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง Lane Departure Warning (LDW) และระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ คน รอบคัน Moving Object Detection (MOD) การทำงานของระบบต่างๆฉับไว แม่นยำ ทำให้ผู้ขับขี่ มั่นใจมากขึ้นในยามการใช้งานทุกรูปแบบ

Nissan Note

ปิดท้ายด้วยความประหยัดน้ำมัน สำหรับ รถยนต์ ค่ายเพื่อนที่แสนดี รุ่นนี้ ทำผลงานไม่ผิดหวัง จากโปรแกรม Save Mode ที่ยังคงใช้เส้นทางเดิมรอบๆกทม. ระยะทางรวม 61.4 กม. จัดน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์เต็มถังจากปั๊มย่านเพชรบุรีตัดใหม่ 2.3 ลิตร ทำได้ 26.58 กม./ลิตร โดยความดีความชอบครั้งนี้ต้องยกให้กับ ระบบตัดการทงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop โดยระบบจะดับเครื่องยนต์เฉพาะเมื่อรถหยุดโดยระบบจะทำงานสูงสุด 3 นาที จนเครื่องกลับมาทำงานตามปกติ แต่ช่วงเครื่องดับชั่วคราว บรรดาเครื่องปรับอากาศ(ความเย็นจะลดระดับลง)กับเครื่องเสียงยังทำงานตามปกติ

Nissan Note

ค่าตัว 640,000 บาท (รุ่น 1.2 VL) กับข้าวของที่จัดมาให้นั้นเหมาะสมสมราคา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ เครื่องเสียงจอสัมผัส Kenwood พร้อมลำโพงที่ให้กำลังเสียงไปวัดไปวา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงท้ายตัด (น่าจะหุ้มหนังด้วยก็ดี) เบาะนั่งที่กว้างโอ่โถ่ง แต่สิ่งเล็กๆน้อยๆอย่างเช่น ล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อความเร็ว 15-20 กม./ชม. ขึ้นไป กับ ไฟแต่งหน้าในที่บังแดด ทั้งสองฝั่ง กลับไม่มีให้ แต่มีความดีที่สามารถลบจุดด้อยได้ในเรื่องระบบความปลอดภัยที่เกินหน้าเกินตาคู่แข่ง ทั้งระบบกล้องรอบคัน (สร้างความลำบากในการมองเห็นเพราะอยู่ตำแหน่งกระจกมองหลัง) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง ฯลฯ

กำลังเครื่องขนาด 1.2 ลิตรเมื่อมาอยู่ในร่างรถ 5 ประตูไซส์ B-Car ตอบสนองได้น่าพอใจ ถึงอาจหัวเสียในความอืดเมื่อใช้งานในเมืองแต่ความประหยัดน้ำมัน ชูหน้าชูตาอยู่ในอันดับต้นๆได้อย่างสบายสำหรับ Nissan Note

Nissan Note

Nissan Note

์Nissan Note

หมายเหตุ!! สำหรับ Nissan Note รุ่น MY2018 (ที่จำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561) จะได้เครื่องเสียงและหน้าจอ Touch Screen 7 นิ้วใหม่ (คาดว่าทาง Clarion เป็น OEM ให้) รองรับระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Apple CarPlay ที่เชื่อมต่อด้วย USB และ AUX IN เพื่อตอบสนองความสะดวกสบายเหนือจินตนาการ โดยจะสงวนในรุ่น VL เท่านั้น

 

 

เรื่องและขับทดสอบโดย นายเต้ย

 

ขอขอบคุณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้ความอนุเคราะห์รถยนต์ Nissan Note 1.2 VL มาทดสอบ

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ